อยู่ในที่ทำงานอย่างมีเกียรติ

  อริสโตเติล เคยได้กล่าวไว้ว่า ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ได้พัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกัน คนทำงานส่วนใหญ่เกิดความภาคภูมิใจในการทำงานที่ตรงกับสายงานที่ตนเองสนใจภูมิใจกับประวัติการศึกษาและหน้าที่การงานที่
ปฎิบัติอยู่ในขณะนั้นพวกเขายอมรับว่าการทำงานที่ตนเองชอบ การเป็นคนที่มีความมั่นใจและเป็นคนยุติธรรม ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่า เรามีคุณค่าและมีเกียรติในตัวเอง และต่อไปนี้เป็นหลักการที่จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงความผิดพลาดอันเกิดจากการทำงาน และเป็นวิธีการที่ทำให้เราอยู่อย่างมีเกียรติในที่ทำงาน

ิู่ 
  1. ให้เกียรติเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ก่อนที่เราจะได้รับเกียรติจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเราต้องรู้จักให้เกียรติผู้อื่นเสียก่อน
วิธีการ - ควรแสดงความยินดีเมื่อเพื่อนร่วมงานได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ปรับความคิดเสียใหม่ว่า เจ้านายตระหนักแล้วว่า เพื่อนร่วมงานคนนั้นเป็น “สิ่งที่มีค่า”ขององค์กรและเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้องค์กรเดินหน้าต่อไป


  2. ลดระดับเสียงบ่นพึมพำลง ว่ากันว่าคนที่พร่ำบ่นเรื่องการทำงานตามที่เจ้านายมอบหมายให้นั้นมักจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เนื่องจากเจ้านายมักพิจารณาว่า เขาหรือเธอยังไม่มีความพร้อมในการทำงาน”ใหญ่” กว่านี้ เพราะลำพังงานในแต่ละวันยังพอประคองไปได้บ้าง ถ้าได้เลื่อนตำแหน่ง สัดส่วนการทำงานย่อมขยับขึ้นจะนำพาหน้าที่ของตนเองไปตลอดรอดฝั่งหรือนี่ วิธีการ – ถึงเวลาที่ต้องปรับความคิดแล้ว ว่าจะอยู่อย่างเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกับเจ้านายรวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณตอบว่าเลือกเป็นมิตรดีกว่า เพราะฉะนั้น สิ่งที่สามารถทำได้คือการไม่แสดงพฤติกรรมอย่างว่า คุณกวนใจเจ้านายอีกแล้ว คุณสามารถสร้างเกียรติของคุณเอง โดยผ่านกระบวนการตัดสินใจเรื่องงานภายในขอบข่ายงานที่ตนเองรับผิดชอบ

  3. รู้และเคารพเงื่อนไขในการทำงาน เรารับรู้ข้อมูลตั้งแต่ตอนต้นว่าจำนวนเงินเดือนโบนัส สวัสดิการที่เราได้รับจากองค์กรเป็นอย่างไรบ้างอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม นั่นคือการเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น วิธีการ – ถ้าเรารู้ว่าได้รับสิทธิอะไรบ้างในองค์กรนี้ให้เราเคารพในสิทธิที่เราได้รับ เช่น สิทธิในด้านการเบิกค่ารักษาพยาบาล สิทธิในการลาป่วย ลาพักร้อน อย่าลืมถามหัวหน้างานว่าเรื่องอะไรก็ตามที่สำคัญต่อตัวคุณโดยเฉพาะเรื่องสิทธิที่คุณพึงได้รับ ทางที่ดีคุณควรจะถามอย่างละเอียดไปเลย เช่น แม้ว่าในองค์กรจะกำหนดให้ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันก็ตาม ทว่าคุณก็ไม่ลืมที่จะถามว่า แล้วแบบนี้จะมีการยืดหยุ่นเรื่องชั่วโมงการทำงานหรือเปล่า รวมไปถึงคำถามที่ว่า การมาทำงานในโอกาสสำหรับรูปแบบต่างๆ คุณได้รับผลตอบแทนบ้างหรือไม่ ตอนที่ถามอย่าใช้คำพูดที่ก้าวร้าว แต่ให้ถามตรงประเด็น เน้นหนักถึงสิทธิที่คุณพึงจะได้รับจริงๆ คิดเสียว่าถ้าเรามีความตั้งใจในการอยากรู้เรื่องสิทธิ ที่เราพึงจะได้รับจริงๆเพื่อนร่วมงานและเจ้านายอาจมองเห็น และเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริง

  4. หลีกเลี่ยงนิสัยพวกมากลากไป ไม่ได้ปฎิเสธว่าการมีพวกพ้อง หรือการแสดงพลังสามัคคีในกลุ่มคนทำงาน ทว่าเราก็ชั่งใจดูให้ดีว่า เราตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มในองค์กรหรือไม่ อย่างเช่น การที่เรารวมตัวกับสมัตรพรรคพวก เดินขบวนประท้วงในองค์กร โดยที่เราแทบไม่รู้เป้าหมายของผู้ชุมนุมเลยว่ามีจุดประสงค์อะไร และทำไปเพื่ออะไร วิธีการ – จงกล้าที่จะเป็นอิสระ มีความคิดของตนเอง คำว่าความคิดของตนเองในที่นี้ หมายถึง ความคิดในทางที่ดี เป็นความคิดที่จะทำให้องค์กรที่คุณทำอยู่พัฒนาต่อไปในทางที่ถูกต้องมิใช่คิดอยู่อย่างเดียวว่ามาทำงาน 09.15 น. พอนาฬิกาบอกเวลา 17.00 น.ก็สะพายกระเป๋ากลับบ้านทันที สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำเสนอเจ้านายหรือไม่ อย่างเช่น มีตัวเลขงบประมาณอะไรที่ต้องนำเสนอเจ้านายอย่างเร่งด่วนหรือไม่

  5. มีความสุขแต่พอสมควร (ในที่ทำงาน) ถ้ามาทำงานแล้วไม่มีความสุขก็ต้องคิดแล้วว่างานนี้เหมาะกับเราหรือไม่ ชีวิตของคนเราส่วนใหญ่อยู่ในที่ทำงาน เพราะฉะนั้นหมั่นยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุขในที่ทำงานเสียบ้าง วิธีการ – เมื่อคุณได้รับโอกาสให้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องในโอกาสสำคัญขององค์กรอย่าลืมใส่อารมณ์ขันเข้าไปบ้าง อย่าพูดแต่เรื่องวิชาการ หรือเรื่องเคร่งเครียดแต่อย่างเดียว หากใครต่อใครในออฟฟิศรับรู้ว่าคุณเป็นคนขำ อารมณ์ดี และค่อนข้างเฮฮาอยู่แล้ว เวลาที่ได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ให้คุณเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด นั่นหมายความว่าให้คุณอย่างเป็นธรรมชาติ พูดอย่างอารมณ์ดี และยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนอย่างที่คุณเป็น ดีกว่าที่คุณจะมาแกล้งเป็นคนเคร่งขรึม แถมกล่าวสุนทรพจน์ด้วยอาการเคร่งเครียดอีกต่างหาก เจ้านายและเพื่อนร่วมงานอาจไม่ประทับใจคุณ

  6. หลีกเลี่ยงการนำปัญหาส่วนตัวมาปนกับการทำงาน ไม่มีทางที่เราจะหลีกเลี่ยงเสียงดังๆ เสียงโ ทรศัพท์ในออฟฟิศของคุณได้ เพื่อนร่วมงานของคุณได้รับโทรศัพท์หลังจากนั้นก็ลืมตัวตะโกนใส่อีกฝ่ายหนึ่งทางโทรศัทพ์อย่างเกรี้ยวกราด คุณไม่ได้ตั้งใจจะได้ยินแต่ก็ได้ยินเข้าจนได้ เลยขาดสมาธิในการทำงาน พลันคิดว่า เขาหรือเธอนำชีวิตส่วนตัวเข้ามาสู่แวดวงการทำงานอีกแล้ว วิธีการ - คุณต้องรู้จักการควบคุมอารมณ์ให้ได้ และต้องรู้จักการแบ่งแยกระหว่างเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัวให้ดีต้องเข้าใจว่า ณ ที่นี้คือสถานที่ส่วนรวม คุณอาจจะโกรธกับเพื่อนหรือทะเลาะกับแฟนมาก็ตาม ต้องพักเรื่องทั้งหมดไว้ภายนอก คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักถ้าคุณยังไม่รู้จักแบ่งแยกอะไร เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราอาจจะยังไม่บรรลุนิติภาวะทางอารมณ์ได้

  7. ระวังตัวเรื่องการถูกคุกคามทางเพศ นี่คืออีกหนึ่งเรื่องแย่ๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในที่ทำงานยุคปัจจุบัน มีทั้งแบบแอบแฝงและเปิดเผย วิธีการ – ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตามที่ถูกคุกคามทางเพศในสถานที่ทำงาน อย่าปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ให้คุณเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจ้านายฟัง การรักษาเกียรติและคุณค่าของตนเองเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างยิ่ง เมื่อคุณเล่าเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงฟังกระบวนการแก้ไขปัญหาย่อมจะเกิดขึ้นตามมา ที่สำคัญคือพนักงานรุ่นใหม่ๆ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ที่แฝงนชตัวอยู่ในองค์กรอีกต่อไป
เหนือสิ่งอื่นใด การแสดงความคิดสร้างสรรค์ แสดงศักยภาพทางด้านผู้นำของตนเองอย่างเต็มที่ และรู้ว่าตัวคุณเองเป็นคนมีคุณค่าเสมอน่าจะเป็น”ยาชูกำลัง” เสริมสร้างกำลังใจสำหรับการทำงานของเราได้เป็นอย่างดี
ที่มาหนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันที่ 30 / 1/ 06