โพสต์ทูเดย์
- เด็กไทยรู้แค่ตำรา ถูกป้อนให้จนชิน ขาดทักษะชีวิตและประสบการณ์ไร้ความอดทนและวินัย
คิดแต่หาวิธีทำอย่างไรให้ตัวเองรวยิู่
น.ส.จิตรา
ดุษฎีเมธา ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
(มศว) กล่าวถึงเด็กไทยยุคปัจจุบันว่า เด็กยุคนี้ไอคิวสูงมีลักษณะการรับเข้ามาก
แต่เป็นการรับเข้าโดยมาจากตำรา แต่เด็กจะขาดแรงบันดาลใจ เด็กไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไร
ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเป็นอะไรและทำอะไรได้บ้าง เด็กไทยในวันนี้จะรู้แค่เพียงควรจะทำอะไร
พ่อแม่หรือครูจะป้อนแต่ข้อมูลให้เด็ก ซึ่งเด็กจะชินอยู่แต่ในโลกของการถูกป้อนข้อมูลให้ไม่ผลิตความคิดใหม่ๆออกมา
ถ้าถามอะไรที่อยู่นอกตำราหรือหนังสือก็จะคิดไม่ได้ สิ่งที่เด็กยุคใหม่ขาดคือทักษะชีวิตและประสบการณ์
เมื่อมีความรู้แค่เพียงในตำราเด็กจึงเข้าข่ายความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เมื่อเข้าสู่ระบบการทำงานยิ่งลำบากมาก
จะเห็นได้จากบัญฑิตที่จบออกมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต น.ส.จิตรา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กไทยขาดความอดทน ขาดวินัย เมื่อขาด
2 ส่วนนี้ ทำให้ขาดเป้าหมาย ส่งผลเมื่อทำอะไรจะเกิดความท้อแท้ ท้อถอยได้ง่าย ขาดความฉลาดทางอารมณ์
เพราะพ่อแม่ในยุคนี้นิยมมีลูกคนเดียว ซื่งปัญหาของลูกคนเดียวนั้นทุกคนในครอบครัวจะปรับเข้าหาเด็ก
โดยเด็กแทบไม่ต้องปรับตัวเองเข้าหาสังคมหรือคนอื่นๆ ในสังคม เมื่อเป็นเช่นนี้จะพบว่าเด็กปรับตัวเองเข้าหาคนอื่นยาก
ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์อยู่ในโลกของตัวเอง ฟังคนอื่นไม่เป็น มีปัญหาต่างๆ ไม่พร้อมจะฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบาก เมื่อถามเด็กที่เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาว่าโตขึ้นจะทำอาชีพอะไร
อยากเรียนอะไร พบว่า 70-80 %
ด็กส่วนใหญ่จะบอกว่ายังไม่รู้ ยังไม่ได้คิด ส่วนเด็กอีก 20-30 % ตอบว่าเป็นอะไรก็ได้ที่ได้เงินมากๆ
ฟังแล้วน่าตกใจมาก เมื่อเด็กตอบว่าเป็นอะไรก็ได้ขอให้ได้เงินเยอะ
ๆ จะเสี่ยงต่อการทำให้คิดหาเงินในทางที่ผิดหรือเมื่อเข้าสู่ระบบการทำงานเขาอาจจะทุจริต
เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน น.ส.จิตรากล่าว