ตอนที่ 6
ตลาดปลาวันเสาร์
  วันเสาร์เป็นวันที่ตลาดปลาคึกคักเป็นพิเศษ ลอนนี่จึงบอกให้รีบมาแต่เช้า แมรี่เจนหลุดคำถามบื้อๆ
ออกไปว่า เขาเริ่มงานกี่โมง เธอจะได้รีบมาก่อน แต่เมื่อลอนนี่บอกว่าเขาเริ่มงานตั้งแต่ตีห้า ทั้งคู่ก็ตกลงพบกันแปดโมงเช้า
  แบรดกับสเตซี่งัวเงียตามแม่ขึ้นรถ แต่กว่าจะเข้าเมืองซีแอตเติลและหาที่จอดรถได้ เด็กทั้งสอง
ก็ตื่นเต็มที่กระปรี้กระเปร่าพร้อมสำหรับแอ๊คชั่นวันใหม่ ทั้งคู่เริ่มถามโน่นถามนี่ไม่หยุดปาก “ เค้าไปเอาปลามาจากไหน? ปลาตัวใหญ่ มั้ย? ที่นั่นมีเด็ก ๆ รึเปล่า? ”
  สามแม่ลูกเดินเข้าตลาดไพค์เพลซ แมรี่เจนรู้สึกแปลก ๆ
ที่มันช่างเงียบสงบผิดกับที่เธอเคยเห็น ลอนนี่ยืนเด่นอยู่หน้าแผงปลาพอดี อาหารทะเลบนแผงถูกจัดเรียงแยกประเภทไว้อย่างสวยงามบนกองน้ำแข็งพร้อมป้ายบอกชื่อ ราคา และสรรพคุณ แต่แผงหนึ่งยังว่างเปล่ามีเพียงน้ำแข็งกองสุมอยู่
  “ สวัสดี ” ลอนนี่ร้องทักด้วยรอยยิ้มคุ้นเคย “ แล้วเด็ก
แบกลังปลาสองหน่อนี่ชื่ออะไรล่ะ? ”
  แมรี่เจนแนะนำลูก ๆ ให้รู้จักกับเขา ลอนนี่ทักทาย
แล้วตัดบทว่าต้องเริ่มงานกันเลย แต่เมื่อแมรี่เจนทำท่าควานหาสมุดโน้ตในกระเป๋าสะพาย เขาร้องห้ามว่า “ ไม่..ไม่ใช่งานแบบนั้น พวกคุณสามคนมาช่วยผมจัดแผงปลาก่อน ”
  “ ดีจัง ” แบรดทำท่าพออกพอใจ
  “ ที่นี่ไม่มีบู๊ทยางคู่เล็ก แต่ฉันมีผ้ากันเปื้อนให้เธอ
เอ้า..คาดซะ เราจะเริ่มจัดแผงปลากันเลย ”
  สเตซี่ยืนเด๋อ แมรี่เจนรวบตัวลูกสาวเข้ามากอดให้กำลังใจ ลอนนี่พาแบรดเข้าไปดูห้องเย็นแช่ปลา
หลังร้านในขณะที่แมรี่เจนจูงสเตซี่เดินชมกุ้งหอยปูปลาบนแผง สิบห้านาทีต่อมา ลอนนี่กับแบรดก็กลับออกมาพร้อมด้วยรถเข็นลังปลาขนาดยักษ์ โดยมีลอนนี่เป็นคนเข็น และแบรดห้อยโหนตะเกียกตะกายช่วยเข็นอยู่ข้าง ๆ ทั้งที่เท้าแทบไม่ติดพื้น

เล่นให้เป็นงาน

  “ แม่ฮะ ! หลังร้านนู่น..ปลา เป็นล้าน ๆ ! ถึงล้าน
ใช่มั้ยฮะ ลอนนี่? แล้วผมได้ช่วยเค้าด้วย..ดูนี่ซี ”
  ลอนนี่ยิ้มกว่าง พยักหน้ายืนยัน แสร้งทำท่า
เอาการเอางาน “ นี่..เราต้องรีบจัดปลาขึ้นแผง จะได้เปิดร้านซะที เจ้า เพื่อน ตัวเปี๊ยก..พร้อมจะช่วยฉันรึยัง? ”
  แบรดสนุกใหญ่แล้ว สองมือเล็ก ๆ ชุลมุนกับการช่วยยื้อยุดยกลากปลาทูน่าจากลังให้ลอนนี่จัดเรียง
เป็นแถวบนกองน้ำแข็ง ทูน่าตัวใหญ่เบ้อเริ่มเกือบเท่าแบรด แมรี่เจนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปมาด้วย ลอนนี่มีวิธีจูงใจให้แบรดช่วยงานอย่างน่าอัศจรรย์ บางจังหวะเขาแกล้งคว้าปลามาไล่งับแบรด หรือทำอะไรสักอย่างให้แบรดหัวเราะ จนในที่สุดแผงทูน่าก็เหลือที่วางสำหรับปลาสองตัวสุดท้าย ลอนนี่จึงยกหน้าที่ให้แบรด แต่ก็ยังแอบช่วยออกแรงอย่างแนบเนียน ถ้าใครมาถามถึงพระเอก “ แอ๊คชั่นฮีโร่ ” ขวัญใจแบรดในนาทีนี้ คำตอบก็ต้องเป็นลอนนี่อย่างไม่ต้องสงสัย
  เอาล่ะ..ทีนี้ก็เวลาทำงานของคุณแม่แล้ว หยิบสมุดจดออกมาเลย แมรี่เจน แบรดจะบอกคุณว่า อะไร
คือเคล็ดลับข้อที่สองของความคึกคักมีชีวิตชีวาในที่ทำงาน ”
  “ แบรด น่ะเหรอ? ”
  “ แน่นอน..เคล็ดลับข้อสอง ซึ่งพนักงานร้านปลาชื่อดังได้เลือกสรร สำหรับการสร้างทัศนคติ
ของตนก็คืออะไรบางอย่างที่เด็กทุกคนรู้จักดี แต่พอเราโตเป็นผู้ใหญ่และจริงจังกับชีวิตมากขึ้นเราก็มักจะลืมมันไป เอ้า..แบรด บอกแม่ซิว่า เวลาพักนายทำอะไรบ้าง? ”
  แบรดโผล่หน้าเหนือกองปลาทูน่าที่เบียดบังตัวจนแนบติดขอบเคาน์เตอร์ แล้วตะโกนตอบว่า “ เล่น ”
  แมรี่เจนเปิดสมุด จดคำใหม่ลงไป “ เล่น !” ใจเริ่มนึกถึงวันแรกที่เข้ามาในตลาดปลา มันเหมือนกับว่า
เธอได้มายืนอยู่ข้างสนามเด็กเล่น มองดู “ เด็กโข่ง ” เล่นกันในช่วงเวลาพัก พวกเขาเขวี้ยงปลา เต้นระบำ ทำท่าแหย่ลูกค้า หยอกเย้ากันเอง ตะโกนสั่งด้วยถ้อยคำประหลาด และเลียนเสียงขานรับกันเป็นทอด ๆ มันช่างครึกครื้นเสียนี่กระไร
  “ แต่อย่าเข้าใจผิดล่ะ ” ลอนนี่สำทับ “ นี่เป็นร้านค้า ต้องทำธุรกิจหากำไร ทางร้านจ่ายเงินจ้างเรา
เราก็ทำงานจริงจัง แต่เราค้นพบว่า ในยามที่จริงจังกับการสร้างผลงาน เรายังสามารถสนุกกับวิธีการทำงานได้ด้วย แบบว่า..ไม่ต้องเครียด แต่งานเดินคล่อง สิ่งที่คนมามุงดูแล้วนึกว่าเป็นฉากโชว์เรียกลูกค้าน่ะ จริง ๆ แล้วคือเด็กโข่งกลุ่มนึงที่กำลังเล่นสนุกกัน แต่ก็เป็นการเล่นแบบได้เรื่องได้ราวด้วย ”
“ ได้เรื่องก็คือได้ประโยชน์หลายทาง เราขายปลาได้มาก ของเหลือค้างน้อย เราเองก็สนุกกับ
งานที่หนักและเหนื่อย แล้วพวกเราก็ยิ่งสนิทรู้ใจกันเหมือนนักกีฬาในทีมที่เล่นชนะ เราภูมิใจในสิ่งที่ทำและวิธีทำของเรา แล้วในที่สุดเราก็ดังกระฉ่อนโลก ทุกอย่างนี่เกิดจากการทำอย่างเดียวกับที่แบรดทำได้โดยไม่ต้องคิด เราเล่นเป็นไงล่ะ !”
  แบรดรีบเสริมทันที “ แม่ฮะ.. ทำไมแม่ไม่ลองพาคนในที่ทำงานมาให้ลอนนี่สอนวิธีเล่นล่ะฮะ? ”
   
สร้างสรรค์วันดี
  ใครคนหนึ่งก็โผล่พรวดออกมาข้าง ๆ แมรี่เจน
  “ นี่ คุณนักข่าวสาวสวย จะซื้อปลามั้ย? ” เพื่อนร่วมงานของลอนนี่นายหนึ่งกำลังชูหัวปลาทำหน้าทะเล้น
“ ตัวนี้ชิ้นส่วนไม่ครบ จะลดราคาให้คุณเป็นพิเศษเลยนะ ” เขาสอดนิ้วเข้าไปกระตุกขากรรไกรปลาจนปากมันฉีกยิ้มกว้าง “ นี่ปุ้มปุ้ยปลายิ้ม ขายแค่เพนนีเดียว ” แล้วเขายิ้มเผล่มองเธออย่างมีเลศนัย
  ลอนนี่หัวเราะก๊าก และแน่นอน แบรดตะกายไขว่คว้าจะเอามันมาถือบ้าง สเตซี่ถอยหลบเกาะขาแม่
แมรี่เจนล้วงกระเป๋าหยิบเหรียญสิบเซนต์ส่งให้คนงานเจ้าของสมญา “ เจ้าหมาป่า ” ไม่ต้องถามเธอก็พอเดาออกว่าชื่อนี้ได้มายังไง ผมเผ้าเขายุ่งกระเซิงแผ่เป็นแผง แววตาคมกล้าราวจับจ้องล่าเหยื่อ แต่หมาป่าตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเล็บพิษสงอันใด แถมยังมีท่าว่าจะเป็นคุณตาใจดีด้วยซ้ำ เจ้าหมาป่าเอาปลายิ้มใส่ลงถุงแล้วยื่นให้แบรด เด็กน้อยหน้าบานรีบคว้ารับ เล่นเอาสเตซี่คนขี้อายต้องโผล่หน้าออกมาส่งเสียงเป็นครั้งแรกเพื่อทวงสิทธิ์ของตน เจ้าหมาป่ารีบไปหยิบหัวปลาอีกสองหัวมาแจกจ่ายให้ทั้งแม่กับลูกคนเล็กในทันใด
  ลอนนี่เอ่ยว่า “ ขอบใจนะ หมาป่า..ที่ช่วยสาธิตเคล็ดลับข้อที่สาม สำหรับการสร้างพลังคึกคักให้ตลาดปลา
ชื่อก้องกระฉ่อนโลก ”
  “ เขาน่ะเหรอ? ”
  “ ลองนึกภาพตอนที่คุณเดินเข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกซิ
แมรี่เจน อะไรที่คุณจำได้ติดตาที่สุด? ”
  “ ฉันเห็นสาวผมแดงคนนึง อายุราวยี่สิบ
เธอขึ้นไปบนยกพื้นแล้วพยายามจะคว้าปลาที่พวกคุณกำลังโยนกัน แต่ตัวมันลื่นมาก เธอเลยพลาดทั้งสองครั้ง แต่ถึงไงเธอก็ได้สนุกเต็มที่ ”
“ ทำไมคุณถึงติดอกติดใจกับภาพนั้นล่ะ? ”
  “เธอช่างร่าเริงมีชีวิตชีวา และพวกเราที่ มุงดูก็ช่วยลุ้นเต็มที่ เรารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเธอไปเลย ”
  “ แล้วคุณคิดว่า ประสบการณ์วันนี้มีอะไรบ้างที่แบรดจะต้องจำติดใจ? ”
  “ ได้ทำงานแบบผู้ใหญ่ ได้เข้าไปในห้องเย็นแช่ปลา แล้วก็..ได้ร่วมงานกับคุณ ”
  “ นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า วันดีที่แสนประทับใจ เราพยายามคิดหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อสร้างความประทับใจ
ห้เป็นที่จดจำ แล้วได้ข้อสรุปว่า เราจะสามารถสร้างความทรงจำประทับใจใครๆ ก็ต่อเมื่อเราทำให้วันนั้นของเขาเป็นวันดี ๆ แล้ววิธีทำงานไปเล่นไปของเราก็เปิดช่องให้เราใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเข้าถึงลูกค้า ใช่..เข้าถึง คำนี้ละที่เป็นกุญแจสำคัญ แทนที่จะแยกตัวออกจากลูกค้า เราต้องมีวิธีการอันสุภาพแนบเนียนในการดึงเขาเข้ามาร่วมสนุกกับเรา และถ้าเราทำสำเร็จ นั่นก็จะเป็นวันดีของเขา ”
  แมรี่เจนเปิดสมุด จดลงไปอีกว่า สร้างสรรค์วันดี ความคิดเธอกำลังโลดแล่น พวกเขาเข้าหาผู้คนและ
เชื้อเชิญให้ร่วมสนุกด้วย ลูกค้าชอบใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดง ความทรงจำประทับใจก็เกิดขึ้น มันจะเรียกรอยยิ้มหรือถูกถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่าแสนสนุกไปอีกนาน
การเข้าถึงผู้อื่นและการทำงานแบบ “ สร้างสรรค์วันดี ” คือการมุ่งความสนใจไปที่ลูกค้า นี่เป็น
หลักจิตวิทยาชั้นยอด เมื่อเราตั้งใจทำให้คนอื่นอารมณ์ดีทุก ๆ วัน ความรู้สึกที่ดีทั้งหลายก็จะหลั่งไหลมารวมกันไม่ขาดสาย..
  “ ว่าไงครับ..มีใครอยู่มั้ยเนี่ย? ”
  ลอนนี่ แบรด และสเตซี่ กำลังจ้องเป๋งมาที่เธอ “ ขอโทษค่ะ ฉันกำลังคิดว่า เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
ข้อนี้ช่างมีอานุภาพมากจริง ๆ ฉันหวังว่า เราจะมีลู่ทาง สร้างสรรค์วันดี ขึ้นมาบ้างที่ เฟิร์สต์ การันตี ”
  “ เดี๋ยวตลาดจะเปิดแล้ว เราพาเด็กไปหาอะไรทานกันก่อนดีกว่า ไปคุยต่อที่นั่นด้วย ไงเด็ก ๆ ..หิวรึยัง? ”
  “ หิวแล้ว-ว-ว !”
   

ใส่ใจให้บริการ

  ทุกคนนั่งลงที่โต๊ะว่างในร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามแล้วสั่งกาแฟ ช็อคโกแล็ตร้อน กับขนมปังโรลรสหวาน
ตลาดเริ่มคราคร่ำไปด้วยผู้คนแล้วลอนนี่ชี้ชวนให้ดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนงานในร้านปลากับกลุ่มคนมุง เขาบอกให้เธอจับตาดูดี ๆ เผื่อจะมองเห็นเคล็ดลับข้อสุดท้าย เธอเพ่งสายตามไปที่คนงานทีละคนด้วยความรู้สึกทึ่งในท่าทีขี้เล่นอารมณ์ดีในขณะทำงานของพวกเขา แล้วเธอก็ปรับความสนใจไปยังคนงานส่วนที่ยังไม่ค่อยมีบทบาทในการแสดง พวกเขามีท่าทีกระตือรือร้น สอดส่ายสายตาหาจังหวะรับส่งลูกอย่างใจจดจ่อ
  ประสบการณ์อันเลวร้ายเมื่อคืนวานทำให้เธอพบคำตอบอย่างง่ายดาย เธอเดินเข้าไปร้าน ๆ หนึ่งพร้อม
กับลูกสองคนที่กำลังงอแงง่วงนอน แล้วเธอก็ต้องยืนรอเป็นนานหน้าเคาน์เตอร์จนกระทั่งพนักงานทั้งสองนายจบการสนทนาเรื่องจะเอารถไปแต่งแบบไหนดีอย่างหมดความอดทน ที่นี่ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่ เธอคิดเปรียบเทียบ คนงานที่นี่ไม่หายไปไหน พวกเขาอยู่กับงานเต็มตัว ไม่เห็นมีใครใจลอยเลยสักแวบเดียว เธอหันไปถามลอนนี่ว่า ที่เธอคิดนั่นใช่รึเปล่า
  “ ถูกเผงเลย ! เอ๊..แต่ทำไมผมไม่ประหลาดใจเลยซักนิด? ” เขายิ้มยียวน “ อ้าว.. อย่าทำหน้าเหมือนเพิ่ง
โผล่มา จากหลุมขยะพิษยังงั้นซี น่ากลัวจัง !”
  แล้วลอนนี่ขยายความต่อ “ ผมเคยเข้าแถวรอสั่งซื้อเนื้อสดในร้านชำ พวกคนขายก็ดูอารมณ์ดี
และกำลังสนุกกันด้วย แต่ปัญหาก็คือ พวกเขาคุยสนุกกันเอง ไม่ใช่สนุกกับผม นี่ถ้าพวกเขาทำให้ผมรู้สึกมีส่วนร่วมบ้าง ผมก็คงได้ภาพประทับใจที่ดีกว่านี้เยอะเลย พวกเขามีทุกอย่างยกเว้นคุณสมบัติข้อนี้นี่เอง พวกเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับผม และไม่ได้มุ่งความสนใจมาที่ผมซึ่งเป็นลูกค้า พวกเขามัวแต่หันหน้าเข้าหากันเอง ”
เธอเปิดสมุด จดลงไปอีกคำว่า ใส่ใจให้บริการ
  แต่ลอนนี่เองนั่นแหละที่เริ่มมีท่าทีว่าจะ “ ไม่อยู่ตรงนั้น ”
เสียแล้ว เธอเข้าใจทันทีเมื่อเขาบอกว่า “ ผมต้องกลับไปทำงานแล้ว ถึงเพื่อน ๆ จะเต็มใจช่วยทำแทน แต่ผมก็ไม่อยากปล่อยตัวมากไป อ้อ..ยังมีอีกข้อที่ผมจะขอแนะนำคุณก่อนหมดเวลาวันนี้ ”
  “ ว่ามาเลยค่ะ ”
  “ นี่ไม่ใช่ผมจะสอนคุณให้แก้ปัญหาของคุณเองหรอกนะ
แต่ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องหาทางทำให้พนักงานของคุณค้นพบ ‘ ปรัชญาปลายิ้ม ' ด้วยตนเอง ผมไม่เชื่อว่า แค่คุณกลับไปถ่ายทอดให้พวกเขาฟังแล้วจะได้ผล ที่แบรดบอกให้คุณพาคนในที่ทำงานมาดูตลาดปลาน่ะ ความคิดเขาเข้าท่าดีนะ ”
  “ แหม..คุณกับแบรดนี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว ฉันคิดแต่จะรีบแก้ปัญหาจนลืมไปว่าพนักงานของฉัน
ก็ควรจะเรียนรู้ด้วยตนเองจากประสบการณ์ตรง แล้วยังต้องใช้เวลาที่จะซึมซับมันด้วย ขอบคุณมากค่ะสำหรับทุก ๆ อย่าง คุณช่วยสร้างสรรค์วันดีให้เราจริง ๆ ”
  ตลอดทางขากลับแบรดจ้อไม่หยุดปาก เธอทำได้อย่างมากก็แค่ “ อยู่ตรงนั้น ” กับลูกโดยไม่หลับในหายไป
ไหน แต่ความคิดติงต๊องเรื่องหนึ่งก็ยังอุตส่าห์แว่บผ่านเข้ามาในหัว เธอยิ้มร่าแล้วรีบเก็บซุกมันไว้สำหรับวันจันทร์
   
เธอเป็นคนชี้ทางการสร้างสรรค์
แล้วฉันคือผู้ค้นพบจนครบค่า
กวีนิรนาม
   
บ่ายวันอาทิตย์
ระหว่างชั่วโมงส่วนตัวบ่ายวันอาทิตย์ของเธอ แมรี่เจนนั่งลำดับความคิดของตนลงบนหน้าว่างของสมุดบันทึก
    เลือกทัศนคติ – ข้อนี้ฉันว่า เราเริ่มได้สวยแล้ว เมนูที่มีคนคิดขึ้นนั่น
  ช่างวิเศษมาก มันเป็นสัญญาณบอกว่าเริ่มมีอะไรคืบหน้าแล้ว ถ้าเราไม่เลือก
  ปรับทัศนคติก่อน อย่างอื่นที่เหลือก็เสียเวลาเปล่า ฉันจะต้องสำรวจและส่งเสริม
  จิตสำนึกความรับรู้ในเรื่องนี้ต่อไป
    เล่น – ตลาดปลาคือสนามเล่นของผู้ใหญ่ ถ้าคนเราสนุกกับการขาย
  ปลาได้ถึงขนาดนั้นละก็ ความหวังยังไม่สิ้นสำหรับพวกเราที่ เฟิร์สต์ การันตี
    สร้างสรรค์วันดี – กระตุ้นให้ลูกค้าร่วมเล่นด้วย สร้างบรรยากาศ
  สามัคคีเป็นกันเอง อย่างให้เหมือนนายเก่าของฉันที่แอลเอ ท่าทีที่เขาพูดกับ
  ฉันมันเหมือนกับว่า เขาเห็นฉันเป็นแค่เครื่องอัดเทป และเขาไม่เคยคุยเรื่อง
  การงานที่น่าสนใจกับฉันเลย
  ใส่ใจให้บริการ – พวกร้านปลาอยู่กับลูกค้าอย่างเต็มตัวและเต็มใจ
  ไม่มีอาการใจลอยหรือแว้บไปคุยโทรศัพท์ส่วนตัว พวกเขาคอยสังเกตท่าทีคน
  มุงและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดเวลา แถมยังพูดกับฉันเหมือนเป็นเพื่อนที่
  ไม่ได้เจอมานาน
 
ฝันนะง่าย .. แต่ “ ทำ ” ?.. โปรดติดตามตอนต่อไป