|
ตอนที่ 5 |
บ่ายวันอาทิตย์ |
บ่ายนี้คือเวลาส่วนตัวของคุณแม่ แมรี่เจนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก | ![]() |
|
อย่างน้อยสองชั่วโมงทุกบ่ายวันอาทิตย์ นี่คือรางวัลปลอบใจตัวเองเท่าที่พอจะทำได้ ทุกครั้งเธอจะรู้สึกปรอดโปร่งขึ้น พร้อมจะรับศึกหนักในที่ทำงานและที่บ้านต่อไป เธอมักใช้เวลาช่วงนี้อ่านหนังสือประเภทข้อคิดสร้างแรงใจให้พลัง หรือนวนิยายดี ๆ สักเรื่อง หรือออกไปปั่นจักรยานเล่น ไม่ก็นั่งจิบกาแฟปล่อยอารมณ์ ซีแอตเติลเป็นเมืองที่ดารดาษไปด้วยร้านกาแฟ แค่ออกจากบ้านไปสามช่วงตึกก็ถึงร้านโปรดของเธอแล้ว แมรี่เจนคว้าหนังสือสองสามเล่มเดินลิ่วออกไป วันนี้โต๊ะประจำตรงมุมร้านยังคงว่างรอเธอ | ||
ขอกาแฟใส่นมพร่องไขมันถ้วยใหญ่ค่ะ | ||
เธอนั่งลงที่เดิมเริ่มเปิดหนังสือที่เก่ากะรุ่งกะริ่งเพราะถูกพลิกอ่านมานับครั้งไม่ถ้วน.. สารพันวันดี | ||
โดย ซาราห์ แบน บรีธแน็ค ? นำเสนอคติพจน์ประจำวันในรอบปี เธอพลิกไปที่หน้า 8 กุมภาพันธ์ แล้วถ้อยคำในนั้นก็เริ่มเรียงรายลอยเด่นขึ้นมา.. |
คนส่วนใหญ่ไม่กล้าคิดว่าตัวเองเป็นศิลปิน แต่เราทุกคนเป็นศิลปินอยู่แล้ว
ใน |
||
แต่ละวัน สิ่งที่คุณเลือกแต่ละอย่างคือการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ไม่ซ้ำแบบ
|
||
ใคร
มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะสร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาได้.. คนเราเกิดมาเพื่อฝาก
|
||
ร่องรอยเฉพาะตนไว้บนโลกนี้ นี่คือ
ของแท้ ในตัวคุณ จงเคารพพลังสร้าง
|
||
สรรค์ที่คุณมี
ก้าวออกไปด้วยศรัทธา แล้วคุณจะพบชีวิตของคุณโลดแล่นไป
|
||
ตามครรลองที่มันควรจะเป็น ด้วยความปีติปรีดาอันลึกซึ้ง
|
||
เธอมีแผนการอยู่แล้ว่าจะเริ่มคิดแก้ปัญหาเรื่องงานและข้อความที่พูดถึงทางเลือกกับแรงศรัทธา | |
ก็ทำให้เธอหวนคิดถึงตลาดปลา คนงานพวกนั้นเป็นศิลปิน เธอสรุป พวกเขาต้องเลือกสร้างสรรค์แต่ละวันขึ้นมา และแล้วประกายความคิดแปลก ๆ ก็แว่บขึ้นในหัว ฉันก็เป็นศิลปินได้นี่นา | |
-------------------------------------- | |
Simple Abundance by Sarah Ban Breathnach | |
เธอหยิบแฟ้มจากงานสัมมนาผู้นำที่เคยไปเข้าร่วมออกมา นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคำว่า | |
คุกในที่ทำงาน ในแฟ้มมีสำเนาปาฐกถาของ จอห์น
การ์ดเนอร์ ? ซึ่งหมึกซีดจางแล้ว เธอจำได้ว่า
การ์ดเนอร์สนับสนุนให้ผู้ฟังถ่ายเอกสารไปเผยแพร่ต่อโดยไม่หวงลิขสิทธิ์ ใจกว้างดีจัง
เธอนึกชม แล้วเขาคงพูดอะไรที่โดนใจอย่างจังด้วย ฉันถึงยังจำเขาได้แม้เวลาจะล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว
เธอเริ่มกวาดสายตาผ่านปาฐกถาฉบับนั้น ทีละหน้า.. ทีละหน้า
|
|
วรรคทองของ จอห์น การ์ดเนอร์ |
ย่อหน้าแรกมีใจความว่า : | ||
ช่างน่าฉงนที่คนส่วนหนึ่ง
สุกคาต้น ในขณะที่คนอีกส่วนหนึ่งยังคง
|
||
มีชีวิตชีวาต่อไปจนถึงวาระสุดท้าย สุกคาต้น อาจเป็นสำนวนเปรียบเทียบที่ | ||
กว้างไปหน่อย งั้นผมพูดตรง ๆ เลยก็ได้ว่า มีคนหลายคนที่หยุดเรียนรู้และ | ||
หยุดเติบโตกลางคันในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ | ||
แมรี่เจนเงยหน้าขึ้นขบคิด คนของฉันก็เป็นแบบนั้น และฉันคนเก่าก็สุกคาต้นเหมือนกัน | ||
เธอยิ้มพอใจกับคำว่า ฉันคนเก่า ซึ่งสะท้อนการตัดสินใจบางอย่าง แล้วก้มหน้าอ่านต่อ : | ||
เราต้องมองพวกเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ ปัญหาชีวิตของพวกเขาอาจ | ||
หนักหน่วงเกินแก้ไข อาจมีอะไรบางอย่างมาทำลายความเชื่อมั่นในตนเอง | ||
หรือความภูมิใจในตนเองจนพวกเขาหมดพลังใจ หรือพวกเขาแค่วิ่งมาไกล | ||
มาก นานมาก จนลืมไปแล้วว่าวิ่งไปทำไม | ||
ผมกำลังพูดถึงคนที่หยุดเรียนรู้และหยุดเติบโต ไม่ว่าวัน ๆ เขาจะ | ||
เหมือนมีงานยุ่งขนาดไหน นี่ผมไม่ได้พูดแบบเย้ยหยันนะ ชีวิตจริงเป็นเรื่อง | ||
ยากลำบากมาก บางที แค่จะทำให้มันผ่านพ้นไปวัน ๆ ก็ต้องอาศัยความกล้า | ||
มากแล้ว.. | ||
เราต้องยอมรับความจริงว่า คนทั้งหลายชายหญิงในโลกแห่งการ | ||
งานล้วนเหนื่อยหน่ายอ่อนล้ากว่าที่ตัวเองคิดหรือคิดจะยอมรับ.. นักเขียนชื่อ | ||
ดังชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่งเคยเขียนไว้ว่า นาฬิกาของคนบางคนหมดลานก่อนหมด | ||
เวลา ผมเฝ้าดูผู้คนใช้ชีวิต อย่างที่โยคี เบร์รา กล่าวว่า เฝ้าดูก็รู้แจ้ง แล้วผม | ||
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่สนุกกับการเติบโตและเรียนรู้ ไม่ว่าในช่วงไหนวัยใดของ | ||
ชีวิต ถ้าเรารู้ทันอันตรายของการปล่อยตัวให้สุกคาต้น เราก็จะมีทางป้องกัน | ||
ได้ทันท่วงที.. ถ้านาฬิกาของคุณหมดลาน คุณก็ไขลานใหม่ได้ | ||
---------------------------------------- | ||
? จอห์น การ์ดเนอร์ (1912 ปัจจุบัน) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข การศึกษาและสวัสดิการสังคมของสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 1965-1968 ในสมัยประธานาธิบดีลินคอน บี จอห์นสัน และดำรงตำแหน่งประธาน Carnegie Corporation ตั้งแต่ปี 1957 มีผลงานเกี่ยวกับความเป็นผู้นำกว่า 10 เล่มด้วยกัน อาทิ On Leadership (ประมุขศิลป์ ผลิตและจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์เออาร์บิซิเนสเพรส จำกัด), Excellence : Can We Be Equal and Excellent Too? เป็นต้น - กองบรรณาธิการ | ||
มีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวคุณที่ผมรู้แต่คุณอาจไม่เฉลียวใจสักนิด | ||
ในตัวคุณมีพลังมากกว่าที่คุณเคยสำแดงออกมา มีความสามารถพิเศษมาก | ||
กว่าที่คุณเคยนำออกมาใช้ มีความเข้มแข็งยิ่งกว่าที่คุณเคยถูกทดสอบมา และ | ||
มีอะไรจะให้มากกว่าที่คุณเคยให้ |
มิน่า..ฉันถึงไม่ลืมชื่อจอห์น การ์ดเนอร์ ฉันก็มีนาฬิกาตายที่ต้องไขลานอยู่หลายเรือนทีเดียว | |
แต่ฉันต้องไขลานตัวเองก่อน แมรี่เจนคิด | |
เธอใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเขียนบันทึกรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจกับอารมณ์สงบเยือกเย็นของตน | |
ก่อนเก็บของบนโต๊ะลุกกลับบ้านเธออ่านทบทวนข้อความที่เขียนลงไป แล้วขีดวงล้อมส่วนที่ตั้งใจจะนำไปเป็นหลักปฏิบัติในเช้าวันจันทร์ |
ภารกิจกวาดล้างหลุมขยะพิษเรียกร้องให้ฉันต้องเป็นผู้นำในทุก ๆ
|
||
ด้าน ฉันจะต้องเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ก็ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอยู่แล้ว การ | ||
ไม่ทำอะไรเลยจะนำไปสู่ความล้มเหลวอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นฉันจะต้อง | ||
ก้าวออกไป ก้าวแรกคือการเลือกทัศนคติให้ตัวเอง ซึ่งฉันจะเลือกศรัทธา และ | ||
ความเชื่อมั่นวางใจ ฉันจะไขลานตัวเอง ทำตัวให้พร้อมที่จะสนุกกับการเติบ | ||
โตเรียนรู้ และในขณะเดียวกัน ฉันจะเอาบทเรียนจากตลาดปลามาลอง | ||
ประยุกต์ใช้กับหลุมขยะพิษของฉัน | ||
เช้าวันจันทร์ | ||
ตีห้าครึ่ง ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ บนผิวหน้าในขณะที่เธอนั่งอยู่ตรงเชิงบันไดรอให้ | ||
โรงเลี้ยงเด็กเปิดทำการ เคยมีไม่กี่ครั้งที่เธอต้องทำแบบนี้และทุกครั้งก็ต้องลากแบรดติดมารอรถโรงเรียนที่นี่ด้วย เธอมองหน้าสะลึมสะลือของลูก ๆ แล้วออกตัวว่า แม่จะไม่ปลุกลูกก่อนสว่างแบบนี้หรอกจ้ะ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริง ๆ วันนี้แม่ต้องรีบไปเตรียมตัวเริ่มโครงการใหญ่ในที่ทำงานน่ะ | ||
แบรดขยี้ตาตอบ ไม่เป็นไรฮะแม่ สเตซี่ส่งเสียงแหลมแทรก ดีค่ะแม่ เรามาก่อนจะได้เลือก | ||
วิดีโอเกมก่อนใคร | ||
เมื่อประตูเปิด แมรี่เข้าไปเซ็นชื่อแล้วกอดลาลูก เหลียวกลับไปมองอีกที เด็กทั้งสองก็ง่วนอยู่ | ||
กับความสนุกเฉพาะหน้าเรียบร้อยแล้ว | ||
ถนนโล่งจัง ตีห้า ห้าสิบห้า เธอก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ถ้วยกาแฟหอมกรุ่นควันฉุยวางอยู่ | ||
ตรงหน้าพร้อมทั้งปึกกระดาษจดโน้ต เธอหยิบปากกามาเขียนตัวโต ๆ ว่า : | ||
เลือกทัศนคติ |
||
ขั้นตอน : | ||
- เรียกประชุม เปิดใจพูด | ||
- หาวิธีสื่อความคิดเรื่องการเลือกทัศนคติ ทำให้ทุกคนเข้าใจและรับไปปฏิบัติ | ||
- สร้างแรงจูงใจ | ||
- ยืนหยัดต่อไปด้วยศรัทธา | ||
เรื่องยากก็คือ แล้วฉันจะพูดอะไรกับทีมงานชั้นสามของฉันล่ะ? เธอตั้งหลักคิด แล้วเขียนต่อ.. | ||
เช้าวันจันทร์ พนักงานถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคอยรับโทรศัพท์ติดต่องาน ในขณะที่อีก | ||
กลุ่มเข้ามาคุยกับเธอในห้องประชุม เมื่อจบก็จะให้อีกกลุ่มเข้ามาต่อ กลุ่มแรกทะยอยเข้ามาแล้ว เธอเงี่ยหูฟังพวกเขาคุยกันเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว ตามด้วยเสียงบ่น เรื่องความวุ่นวายโกลาหลในเช้าวันจันทร์ พวกเขาเป็นคนดีนะนี่ เธอบอกตัวเอง ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อเสียงบ่นสร้างซาลงและทุกคนจ้องมาที่เธอ ต้องเปิดฉากแล้ว | ||
เปิดใจไขปัญหา | ||
วันนี้เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกัน..เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนรองประธานกลุ่มบริษัทเรา | ||
ได้ไปร่วมสัมมนาแล้วกลับมาด้วยความคิดว่าจะต้องปรับปรุง สำนักงาน เฟิร์สต์ เนชั่นแนล กันรันตี ให้คึกคักเข้มแข็งและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เพราะเขาเชื่อว่า ความคึกคักมีชีวิตชีวาจะนำไปสู่การเพิ่มขยายผลงาน ดึงดูดลูกค้ารายใหม่ เสริมสร้างฐานในระยะยาว ยกระดับงานบริการลูกค้าและคุณภาพด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันในวงการธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาได้เรียกประชุมฝ่ายบริหารของบริษัท แล้วในที่ประชุมเขายังเรียกชั้นสามของเราว่า หลุมขยะพิษ ' ใช่..เขาเรียกเราว่าหลุมขยะ แถมยังบอก ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องกวาดล้างหลุมนี่ซะที | ||
แมรี่เจนกวาดสายตามองปฏิกิริยาตระหนกตกใจของทุกคน อดัมส์คนเก่าแก่ปากไวที่สุด | ||
รีบโพล่งออกมาว่าลองให้พวกเขามาทำงานแบบเราบ้างซี แล้วจะรู้ว่ามันน่าเบื่อที่สุดในโลกเลยละ | ||
พนักงานอีกคนที่เฉื่อยเฉยเชื่องช้าเป็นที่สุด อ้าปากสนองรับ คึกคักมีชีวิตชีวาแล้วจะช่วย | ||
อะไรขึ้นมา เราก็ทำงานกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? | ||
แต่ไม่มีใครโต้แย้งเลยสักคำว่า พวกเขาไม่ได้มาทำงานด้วยอารมณ์บูด ๆ เซ็ง ๆ | ||
แมรี่เจนพูดต่อว่าฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า ปัญหาข้อนี้ไม่หายไปไหนแน่ต่อไปรองประธานบริษัท | ||
อาจจะเลิกสนใจ บิลก็อาจจะลืม แต่ฉันจะไม่ลืม ฉันเห็นด้วยเต็มที่ว่า ชั้นสามของเราเป็นหลุมขยะพิษ แผนกอื่น ๆ ในบริษัทต่างตั้งแง่รังเกียจรังงอนที่จะติดต่องานกับเรา พวกเขายังเรียกเราว่า ขุมนรก ' อีกด้วย พวกเขาตั้งวงนินทาเราตอนพักกลางวัน หัวเราะเยาะเราเวลาเดินผ่าน แล้วพวกเขาก็พูดถูกจริง ๆ แม้แต่เราเองหลายคนก็ยังไม่อยากโผล่มาทำงาน บางคนก็เรียกมันว่าขุมนรกซะเองด้วยซ้ำ ฉันคิดว่า เราควรจะเปลี่ยนมัน เรามีทางที่จะเปลี่ยนมันได้ และฉันอยากให้ทุกคนรู้ด้วยว่า เพราะอะไร | ||
เสียงบ่นอื้ออึงกลับกลายเป็นอาการอึ้ง ทั้งห้องเงียบสงัด | ||
พวกคุณต่างก็รู้เรื่องราวของฉันดี แดนกับฉันย้ายมาที่นี่พร้อมกับความหวัง ความฝัน | ||
และลูกเล็ก ๆ สองคน แล้วจู่ ๆ แดนก็จากไป ทิ้งให้ฉันรับทุกอย่างตามลำพัง พวกคุณรู้ว่าบริษัทประกันจ่ายค่ารักษาแดนแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่ครอบคลุมอีกหลายรายการใหญ่ ๆ ที่กลายมาเป็นภาระหนักของฉัน | ||
แต่สิ่งที่พวกคุณคงไม่รู้ก็คือปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจฉันยังไงบ้าง พวกคุณบางคน | ||
เป็นพ่อหรือแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกโดยลำพัง คงเข้าใจว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร ฉันต้องการงานนี้ แต่ฉันขาดความมั่นใจ ฉันก็เลยทำงานแบบเช้าชามเย็นชามไปเรื่อย ๆ ไม่กล้าทำอะไรที่อาจกลายเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่มันก็ตลกที่อาชีพอันมั่นคงของฉันกำลังสั่นคลอน และสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะฉันไม่ยอมทำอะไรเลย | ||
พอกันที วิธีหลีกภัยไปเรื่อย ๆ เอาเป็นว่า ฉันยังต้องการงานนี้ แต่ไม่ต้องการ | ||
หมกตัวอยู่ในหลุมขยะพิษไปจนปลดระวาง บทเรียนจากแดนที่ฉันหลงลืมไปนานก็คือ ชีวิตมีค่าเกินกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไปจนถึงวัยเกษียณ เราต้องใช้เวลาในการทำงานมากเสียจนฉันคิดว่าเราควรต้องทำให้ที่ทำงานของเรามีบรรยากาศดีกว่านี้ | ||
และข่าวดีก็คือ ฉันรู้จักผู้เชี่ยวชาญคนนึง เขาสังกัดหน่วยงานชื่อกระฉ่อนโลกเชียวนะ | ||
เขาสามารถให้คำปรึกษาด้านการกระตุ้นพลังในที่ทำงาน พวกคุณจะได้พบกับเขาแน่ แต่วันนี้ฉันขอเสนอแง่คิดส่วนหนึ่งของเขาก่อน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ทัศนคติในที่ทำงาน | ||
แล้วแมรี่เจนก็เริ่มสาธยายความคิดเรื่องทัศนคติที่เลือกได้ เมื่อเธออภิปรายจบก็ถามว่า ใครมี | ||
ข้อข้องใจอะไรบ้าง สตีฟยกมือถามว่า ถ้าผมขับรถอยู่ดี ๆ มีไอ้บ้าคนนึงปาดหน้าจนเสียหลัก ผมก็ต้องโกรธ แล้วบีบแตรตะโกนด่าทำท่าชูกำปั้น แบบนี้ผมจะมีทางเลือกอะไรอีกล่ะ? ก็ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องแต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ผมมีทางเลือกอยู่แล้วนี่ | ||
งั้นขอถามหน่อย..สตีฟ ถ้าเหตุการณ์นั่นเกิดขึ้นในย่านอันตรายของเมือง คุณยังจะบีบแตร | ||
ตะโกนด่าหรือส่งสัญญาณท้ารบมั้ย? | ||
สตีฟยิ้มเขิน ไม่ดีกว่า..ขืนท้าก็เจ็บตัวเปล่า | ||
แสดงว่า ถ้าอยู่ในเขตอันตรายคุณเลือกวิธีแสดงออกได้ แต่ถ้าอยู่ในเมืองย่านที่ปลอดภัย | ||
คุณเลือกไม่ได้ ยังงั้นเหรอคะ? | ||
อ้อ..เอาละ แมรี่เจน ผมเข้าใจแล้วคุณจะบอกอะไร | ||
คำถามของคุณนั่นละที่ช่วยฉัน สตีฟ คนอื่นจะขับรถยังไงเราสั่งเขาไม่ได้ แต่เราสั่งตัวเอง | ||
ได้ว่าจะมีปฏิกิริยาต่อเขาอย่างไร ที่เฟิร์สต์ การันตี เราเลือกไม่ได้ว่าจะทำงานอะไรชิ้นไหนก่อนหลัง แต่เราเลือกได้ว่าจะจับงานชิ้นนั้นมาทำด้วยท่าทีแบบไหนฉันอยากให้พวกคุณเชื่อว่า มันทำได้จริงๆ แล้วลองคิดดูว่าเราควรทำอะไรบ้างที่จะทำให้มองเห็นทางเลือกต่าง ๆ ที่เรามี ขอให้โชคดีทุกคน อย่าลืมนะคะว่า ชีวิตการทำงานของเราขึ้นอยู่กับเรื่องนี้แล้ว | ||
การประชุมกลุ่มที่สองก็เหมือนกับกลุ่มแรก แต่ไม่มีใครตั้งคำถาม แมรี่เจนเลยยกคำถามของสตีฟ | ||
มานำร่อง เพิ่งสิบโมงครึ่ง เช้าวันจันทร์ เธอก็แทบหมดแรงแล้ว แต่นึกขึ้นมาได้ว่า นี่ละคือโอกาสแรกที่เธอจะได้เลือกทัศนคติใหม่ให้ตัวเอง แล้วเธอก็เลือก | ||
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอจงใจเดินเตร่ไปทั่วออฟฟิศทุกวัน เผื่อว่าใครอยากคุยต่อเรื่อง | ||
การปรับทัศนคติ เมื่อเจอหน้าสตีฟ เขาพูดว่า แหม..คุณต้อนผมเข้ามุมเลย ในที่ประชุมนั่นน่ะ | ||
คุณคงไม่ถือนะ | ||
แมรี่เจน คุณช่วยผมต่างหากล่ะ ช่วงหลัง ๆ นี่ชีวิตผมตกเป็นฝ่ายรับตลอด คุณเป็นคนกระตุกให้ผม | ||
ได้คิดว่า มีเรื่องสำคัญที่ผมจะต้องตัดสินใจเลือก และผมสามารถเลือกได้ถ้าใจกล้าหน่อย หรือควบคุมตัวเองได้มากขึ้นอีกหน่อย | ||
กล้า? | ||
คือผมกำลังมีปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัวที่แก้ไม่ตกน่ะ ตอนนี้ผมรู้แล้ว่า การทำตัวเป็นฝ่ายรับแล้ว | ||
รู้สึกเหมือนตัวเองตกเป็นเหยื่อ จะไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย ผมต้องลุกขึ้นเผชิญหน้ากับมันซะที ขอโทษนะที่ผมพูดอะไรคลุมเครือแบบนี้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ น่ะ | ||
งั้นขอให้โชคดีนะ สตีฟ แล้วก็..ขอบคุณที่ไว้ใจฉันพอที่จะพูดถึงปัญหาส่วนตัว | ||
เราทุกคนเชื่อใจคุณอยู่แล้ว..แมรี่เจน เพียงแต่ว่า งานมันน่าเบื่อ มีแต่เสียงบ่นเข้าหู จนเรา | ||
จ๋อยไปหมด รู้สึกเหมือนถูกเล่นงานอยู่ข้างเดียว คุณลุกขึ้นลุยก็ดีแล้ว ผมจะสนับสนุนเต็มที่ | ||
เธอรู้สึกแปลกใจกับคะแนนเสียงสนับสนุนให้กำลังใจ พนักงานเหล่านี้ยังมองรายละเอียด | ||
ไม่ออก แต่แทบทุกคนก็เห็นด้วยกับความคิดที่จะสร้างบรรยากาศให้น่าอภิรมย์ขึ้นสำหรับการทำงาน | ||
และแล้วมันก็เริ่มปรากฏขึ้นในวันศุกร์นั้นเอง เมื่อเธอก้าวออกจากลิฟท์ที่ชั้นสามก็เห็นโปสเตอร์ | ||
์แผ่นยักษติดหราอยู่ บรรทัดแรกเป็นอักษรตัวโตเขียนว่า เลือกทัศนคติของคุณ ถัดลงมาคือ เชิญเลือกเมนูประจำวัน และมีรูป หน้ายักษ์ ' กับ หน้ายิ้ม ' ให้เลือก แมรี่เจนรู้สึกปลื้มจนตัวลอย พวกเขาเข้าใจแล้ว ! เธอวิ่งเข้าห้องทำงานรีบโทรหาลอนนี่ | ||
เธอเล่าเรื่องเมนูให้เขาฟังแล้วขอนัดคุยต่อเรื่องที่ค้างไว้ ลอนนี่เสนอเป็นมื้อเที่ยงวันจันทร์ แต่เธอไม่ | ||
อยากรอไปจนสัปดาห์หน้า ดังนั้นทั้งสองจึงตกลงกันว่า เสาร์พรุ่งนี้ แมรี่เจนจะไปหาเขาที่ตลาดปลาโดยมีลูก ๆ พ่วงไปด้วย | ||
แมรี่เจนเริ่มได้สวย แต่ สวยตลอด ? โปรดติดตามตอนต่อไป | ||