หน้าต่างความคิด:นิสัย...."เศรษฐี"

BRIAN TRACY

  เขียนหัวข้อนี้ ในช่วงนี้ หลายคนอาจพาลคิดไปได้ว่าจะเป็นการพูดถึงนิสัยอันไม่ชอบมาพากลของคนรวย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นการเมืองแนวพาณิชย์ ซุกหุ้น ซ่อนภาษี หรือการลงทุนในเกาะ...แต่ที่จริงแล้วเป็นความตั้งใจที่จะให้ข้อมูลและข้อสังเกตเกี่ยวกับนิสัยของคนที่จะเป็นเศรษฐีจริงๆ เพื่อให้ใครต่อใครที่อยากจะเป็นเศรษฐีได้ลองไตร่ตรองและเอาอย่าง

ิู่ 
  ข้อสังเกตเหล่านี้ได้มาจาก Brain Tracy นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ครั้งหนึ่งชีวิตเคยเละเทะในช่วงวัยรุ่น และยูเทิร์นชีวิตได้ทันในวัยสามสิบต้นๆ ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพนักขาย และสุดท้ายเป็นเจ้าของบริษัท Brain Tracy International ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ

  Brian Tracy ใช้เวลาศึกษาและเก็บข้อมูลเศรษฐีเงินล้านในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 5 ล้านราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วจากเพียงห้าพันกว่ารายในปี 1900 และมหาเศรษฐีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีหน้าใหม่ ซึ่งเพิ่งมาร่ำรวยกันในรุ่นของตนเอง ไม่ใช่เป็นเศรษฐีเก่าที่มีทรัพย์สมบัติสะสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นปู่ หรือรุ่นทวด

มหาเศรษฐีเหล่านี้มีภูมิหลังที่หลากหลาย บางคนเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ (Brain Tracy เองก็เช่นเดียวกัน) บางคนจบมหาวิทยาลัยชั้นนำ บางคนเป็นลูกของพวกเสื่อผืนหมอนใบที่พ่อแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ด้วยซ้ำ บางคนมาจากคนชั้นกลาง แต่ Brain Tracy เชื่อว่ามหาเศรษฐีพวกนี้มีนิสัยเหมือนกันบางอย่าง

ละเอียด...ออม....วินัย

เศรษฐีบางคนอาจมีรส "เค็ม" แต่ก็มีเศรษฐีบางคนที่ไม่ได้มีรสอย่างที่ว่า นั่นหมายความว่าขึ้นชื่อจะสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเศรษฐีแล้วอาจเป็นคนที่ขี้เหนียวหรือไม่ขี้เหนียวก็ได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือความรอบคอบในการจับจ่ายทุกบาททุกสตางค์ จ่ายแล้วต้องคุ้มค่า โดยเฉพาะในช่วงเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว ต้องถึงขนาดว่า "จะไม่ซื้อ ถ้าเช่าได้ และจะไม่เช่า ถ้าขอยืมได้

"นิสัยที่ตามมากับความละเอียดทุกสลึง คือการ "ออม" ในวัยเด็กคนเหล่านี้มีนิสัยรักการออม และนิสัยที่มาพร้อมกับการออม คือ "ความมีวินัย" สองสิ่งนี้แยกจากกันไม่ได้ วินัย คือการทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม...


 โลกทุนนิยมเต็มไปด้วยกลวิธีล่อใจให้จับจ่าย เมื่อลองได้ตั้งใจจัดแบ่งสัดส่วนเงินรายได้ไว้เป็นเงินออมแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องไม่มีอะไรไปทำให้เงินที่กันไว้เป็นเงินออมนั้นพร่องไป และสิ่งที่จะตามมากับวินัย คือความ "หนักแน่น" ซึ่งจะเป็นนิสัยพื้นฐานของการลงทุนในอนาคต



หลงใหลในการดึงดูดเงิน 

 นิสัยอีกประการที่ตามมาหลังจากที่เงินออมทวีจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเกิดจากความมีวินัยในการออม คือนิสัยของการหาวิธีดึงดูดเงินให้เพิ่มมากขึ้น

  เศรษฐีเงินล้านหลายคนเห็นตรงกันว่า "เงินล้านแรกเป็นเงินก้อนที่หายากที่สุด.แต่ล้านต่อๆ ไปเป็นอะไรที่หยุดไม่ได้" ทั้งนี้เนื่องจาก เงินล้านแรกได้มาจากเงินทุนจำนวนน้อย อาศัยวินัยและความอดทนสูง แต่เมื่อเก็บสะสมจนได้ ก็เป็นเหมือนหลักประกันหนุนหลังในการลงทุน ใจมีความฮึกเหิมมากขึ้น ลงทุนโลดโผนขึ้น และในใจรู้สึกปลอดภัยขึ้นกว่าสมัยเมื่อกระเหม็ดกระแหม่ลงทุนแบบจำกัดจำเขี่ย และเริ่มสนุกกับการหาวิธีการที่จะทำให้งอกเงยขึ้น เพราะเริ่มทำได้สะดวกขึ้น

  ไม่เชื่อใน "โชค"

 จริงอยู่ที่อาจมีเศรษฐีจำนวนไม่น้อยที่รวยจากความบังเอิญ แต่ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนแล้ว "เศรษฐีบังเอิญ" พวกนี้มีอยู่แค่หยิบมือเดียว ส่วนที่เหลือเป็นพวกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "แลกมาด้วยการทำงานหนัก" และไม่เชื่อโชค ไม่รอโชค อาจแอบหวังให้มี "ฟลุ้ค" บ้าง แต่ก็ไม่หวังเป็นจริงเป็นจัง

  เศรษฐีเหล่านี้เชื่อในการทำงานหนักกว่าคนอื่น และเชื่อว่าถ้าหากอยากจะรวยกว่าคนอื่น ต้องคิดให้มากกว่า ทำให้ดีกว่า บนรากฐานของการมีวิสัยทัศน์ การวางแผนที่รัดกุม การป้องกันความเสี่ยง และเชื่อตรงกันว่า ความหวัง และโชค ไม่ใช่กลยุทธ์ (Hope is not a strategy. Wishing is not a strategy) คนเหล่านี้ทำการบ้านมาอย่างดี และเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนจะนำเสนอข้อเสนอใดๆ

 คิดอย่างเศรษฐี...ไม่ใช่ใช้อย่างเศรษฐี

 เศรษฐีหน้าใหม่เหล่านี้ ผ่านช่วงชีวิตของการก่อร่างสร้างตัวมาก่อน สิ่งที่คนเหล่านี้ทำอยู่เสมอคือการวิเคราะห์วิธีคิดของเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ และพยายามฝึกให้ตนเองมีวิธีคิดแบบเศรษฐี หรือที่เรียกว่ามี Millionaire Mindset ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลงทุน การแก้ปัญหา วิสัยทัศน์ เทคนิคการต่อรอง รวมไปจนถึงบุคลิกลักษณะ แต่กลับจะระมัดระวังไม่เลียนแบบวิธีการจับจ่ายของเศรษฐี จนกว่าจะแน่ใจว่าตนเองประสบความสำเร็จ

  Brain Tracy ยังได้นำเสนอเคล็ดลับการสร้างฐานะไว้อีกมากมายในหนังสือ "Million Dollar Habits" ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่สร้างชื่อให้กับเขาอย่างมาก ไม่แพ้ "Eat That Frog" และ "Psychology of Selling"

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 

  ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ในสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ และผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวางแผน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธรุกิจ