THE  NAPOLEAN  HILL’S  LAWS  OF  SUCCESS
Dr. Napolean Hill
 
ตอนที่ 11 :การควบคุมตนเอง
“ในมนุษย์ทุกคนมีสองด้าน  มืด และ สว่าง
เป็นไปได้หรือที่คนที่ถูกยึดครองด้วยด้านมืด จะประสบความสำเร็จ ?”
 
 
Dr.Hill ระบุอย่างไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นว่าด้านมืดของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามคือ : ความใจแคบ ....ความโลภ ....ความอาฆาตพยาบาท ....ความเห็นแก่ตัว ....ความหวาดระแวง ....ความอิจฉา ....ความทุจริต ....ความสุรุ่ยสุร่าย
 
“ความใจแคบ” เป็นศัตรูของ “สันติภาพ” “Team work” เช่นการรังเกียจคนต่างศาสนา  การรังเกียจคนต่างเชื้อชาติ  การรังเกียจคนต่างสถาบัน  การรังเกียจคนต่างภาคกัน
 
“ความโลภ” ทำให้จิตใจของเราแปรปรวนด้วยความอยากได้  อยากมีเกินความพอดี  พองามถึงขนาดที่คอยกีดกัน  จนกระทั่งแย่งชิงในหมู่มนุษย์ด้วยกัน
 
“ความอาฆาตพยาบาท” ทำให้เกิดการตอบโต้ด้วยอารมณ์ ด้วยความรุนแรง
 
“ความเห็นแก่ตัว” ทำให้เกิดความตระหนี่  ไร้น้ำใจไมตรี  การไม่ให้ความร่วมมือในกลุ่มคน
   
“ความหวาดระแวง” ทำให้เกิดการตั้งป้อมระหว่างกัน  ก่อให้เกิด –ช่องว่างระหว่างกัน  ขาดความ—ศรัทธาระหว่างกัน
 
“ความอิจฉา”  ทำให้เกิดการจ้องจับผิดกัน  กลั่นแกล้งปัดแข้งปัดขากัน
 
“ความทุจริต” ทำให้เกิดการคิดชั่ว  หวังอยากได้ในสิ่งที่ไม่สมควรได้โดยวิธีที่ต่ำช้า  ไร้ยางอาย
 
“ความสุรุ่ยสุร่าย” ทำให้เกิดกับดักทางด้านการเงิน ที่ก่อแรงกดดันแก่ผู้ที่มีมัน

 

Dr.Hill กล่าวว่าพวกเราทุกคนมีด้านมืดเหล่านี้อยู่ในสมอง  เพียงแต่ใครมีอะไรในปริมาณเท่าใดเท่านั้นเอง !
 
ที่เขาต้องการย้ำคือ “ไม่มีหรอกที่ใครที่มีศัตรูตัวร้ายเหล่านี้แม้เพียงตัวใดตัวหนึ่ง  แล้วยังสามารถประสบความสำเร็จได้ !”
 
คนที่จะสำเร็จได้ต้องกำจัดศัตรูในด้านมืดเหล่านี้ออกไปให้หมดด้วย “การควบคุมตนเอง”
 
ปราศจาก “การควบคุมตนเอง” เสียแล้ว “ความกระตือรือร้น” ก็เหมือนพลังน้ำป่าที่ไหลกรากโดยไม่มีเขื่อนกั้น  หรือเหมือนพลังไฟฟ้าในท้องฟ้าที่อาจผ่าลงที่ใดๆอย่างสะเปะสะปะจนทำลายชีวิตและทรัพย์สิน !
 
“การควบคุมตนเอง” เป็นสิ่งที่ถ่วงดุลกับ “ความกระตือรือร้น”
เคราะห์กรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์เกิดจากการขาด “การควบคุมตนเอง”
จากการสำรวจนักโทษ 160,000 คน พบว่า 92% เป็นคนที่ขาด “การควบคุมตนเอง” คำสอนทางศาสนาต่างๆจึงมุ่งเน้นสอนให้คน “ควบคุมตนเอง”ทั้งสิ้น  ตั้งแต่การรักศัตรู  การยกโทษ ฯ Forgive & Forget
 
Abraham  Lincoln ต้องอดกลั้นต่อการทรยศของรัฐมนตรีที่เขาตั้งมากับมือเพียงเพื่อให้งานเลิกทาสที่ยิ่งใหญ่กว่าไม่พังครืนไปเสียด้วยความแตกแยกที่มาจากความโกรธของเขาเอง !
 
 

 

คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของคำถากถางของคนอื่น
 
คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะระมัดระวังในการแสดงความเห็นต่อคนอื่นโดยเฉพาะการสบประมาทดูหมิ่น  หรือหาทางแก้เผ็ดผู้อื่น
 
คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะไม่เกลียดชังคนที่ไม่เห็นด้วยกับตน  แต่เขาจะพยายามเข้าใจเหตุผลของการไม่เห็นด้วยนั้นและเลือกแนวทางที่ดีที่สุดที่จะให้ประโยชน์ต่องาน 
 
คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะไม่สุรุ่ยสุร่าย  ไม่ใช้จ่ายเกินตัว  และไม่ดิ้นรนซื้อรถก่อนซื้อบ้าน
 
คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะไม่ตกเป็นทาสของ—ค่านิยมของสังคมในการทำตามผู้อื่นไปทุกเรื่อง เพียงเพื่อแลกกับการได้รับการยอมรับ
 
คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะไม่ตกเป็นทาสของ—คำวิจารณ์ที่ก้าวร้าวที่ทำให้เราอยากตอบโต้กลับ
 
 
ในไม่ช้าก็เร็วที่คนที่มี “การควบคุมตนเอง” อย่างดีจะอิ่มเอิบไปกับความสุขที่เขาได้รับจากการเป็นที่เคารพจากคนรอบข้างที่เห็น “ตัวตน”ที่น่านับถือของเขา  ในขณะเดียวกันด้วยท่าทีที่สร้างสรรค์ของผู้ที่มี “การควบคุมตนเอง” เขาไม่ต้องเหนื่อยกับการคอยตอบโต้หรือคอยอธิบาย 
“ความนิ่ง” ได้อธิบายแก่คนรอบข้างได้ดีที่สุดไปแล้วว่า—อะไร ....เป็น ....อะไร !

 

แต่ว่า ....ในขณะที่คนอื่นๆอาจทำให้ “ความทะเยอทะยาน” ของเราสั่นคลอน  อย่าลืมว่า “ความขี้ขลาด” มาจากภายในของเราเอง !
 
ที่น่าสนใจมากๆคือที่ Dr.Hill บอกว่า :
“ท่านเป็นผลิตผลของวิวัฒนาการของสัตว์โลกที่มีมาอย่างน้อยหนึ่งล้านปี  คนหลายชั่วอายุคนได้ล้มตายไปแล้วก่อนที่จะมาถึงท่าน  ธรรมชาติได้ขัดเกลาและเลือกสรรสิ่งต่างๆที่จะประกอบขึ้นเป็นตัวท่าน  ธรรมชาติได้ขัดเกลาสันดานของสัตว์  ขัดเกลาความใฝ่ต่ำของคนในรุ่นก่อนๆ  จนกระทั่งได้ผลิต –สิ่งมีชีวิตที่ดีเยี่ยม—ขึ้นในตัวท่าน  ธรรมชาติได้ประสิทธิประสาทคุณสมบัติด้านบวกแก่ท่านมาตามลำดับ  ด้วยเหตุ  ด้วยผล  ด้วยความสมบูรณ์ และ ความสมดุล ที่มากพอเพื่อให้ท่านสามารถเลือกควบคุมและจัดการด้วยตนเอง เพื่ออะไรก็ตามที่ท่านต้องการ”
 
ไม่มีสัตว์โลกชนิดใดอีกแล้วที่ได้รับอำนาจพิเศษในการ “ควบคุมตนเอง”มากเท่ากับท่านมาก่อน !
 
คุณเห็นด้วยไหม ?
 
ลองอ่านข้อความสองวรรคข้างบนอีกสักรอบสองรอบ  แล้วคิดใหม่ !
หากคุณได้ติดตามแนวคิดของ Dr.Hill มาตั้งแต่ต้นที่ว่าเป้าหมายของหนังสือเล่มนี้ของเขาคือ—ช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความยากจนให้ได้ ! บนพื้นฐานของการตระหนักในศักยภาพของตนเองว่ามีเหลือเฟือที่ธรรมชาติ—หรือ—พระเจ้า  ประทานมาให้ในการสร้างความสำเร็จของเราขึ้นมาด้วยตัวของเราเอง
  ไม่ใช่รอให้คนอื่นหยิบยื่นให้มา  แล้วเราไม่ต้องทำอะไร ! คุณจะเริ่มเข้าใจว่า Dr.Hill ไม่ได้ต้องการหยาบคายที่แอบด่าเรา  แต่ต้องการปลุกให้เราตื่นจากความเฉื่อยแฉะ ความลืมตัวที่จะใช้ศักยภาพของเราให้เต็มที่ (Get the best out of our lives)  ความเกียจคร้านที่เราอาจคุ้นเคย  หรือแม้กระทั่งเตือนเราด้วยความหวังดีว่า—อย่าตกเป็นเหยื่อของ “ศัตรูด้านมืด” ของเราเอง ....ด้วยการมี “การควบคุมตนเอง” !
 
นี่จึงเป็นความประเสริฐของ Dr.Hill โดยแท้จริง ที่เราต้องยอมรับ !
 

 

ผมรู้สึกว่าบทนี้อาจจะถือได้ว่าเป็นบทที่ดีที่สุดบทหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
มันสะใจที่สุด ....ตรงประเด็นที่สุด ....ในการที่กระตุ้นให้เราถูกปลุกให้ตื่น เพื่อลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง ....ให้เป็นคนที่ ....มีศักยภาพที่สุด !!!