2 เดือนอียูเตือนภัยสินค้าไทยตรึม

 
 
แนะส่งออกระวังทั้งของกินของใช้ปีก่อนโดน  39 ชนิด 
โพสต์ทูเดย์ – “อียู” แฉแหลก สินค้าไทยไม่ได้มาตรฐาน  แค่  2 เดือนแรกปีนี้  ถูกแจ้งเตือนภัย  ทั้งสินค้าอาหาร และไม่ใช่อาหารหลายรายการ
 
 
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์  แจ้งว่า  ช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม – กุมภาพันธ์) ปี 2550 สหภาพยุโยป (อียู) ได้แจ้งเตือนสินค้าอาหารที่นำเข้าจากไทย ตามระบบการแจ้งเตือนสินค้าอาหารและอาหารสัตว์ (Rapid for Food and Feed System ; RASFF)  ของสหภาพยุโรปหลายรายการ
ซึ่งพบสารกันบูดซัลไฟต์ ในดอกไม้จีนอบแห้ง  ลูกอมรสผลไม้  พบเชื้อจุลินทรีย์ซาลโมเนลลาในผักหลายชนิด เช่น ผักบุ้ง สะระแหน่ ผักชี พบแคดเมียม ในเห็ดอบแห้ง  พบแบคทีเรีย ในปลาหมึกแช่แข็ง พบฮีสตามีน ในปลาทูน่ากระป๋อง  เป็นต้น
ขณะเดียวกัน  อียูยังได้แจ้งเตือนภัยสินค้าที่ไม่ใช่อาหารของไทยอีกหลายรายการ  เพราะผลิตไม่ได้มาตรฐานของอียูภายใต้ระบบเตือนภัยสินค้าที่มีใช่อาหาร (Rapid Alert  System for Non-Food Products : RAPEX)
ประเทศกรีซ  พบรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น CR  L200 จากไทย  ที่ผลิตในปี  2549 มีข้อบกพร่อง  ในระบบส่งสัญญาณระดับน้ำในที่กรองเชื้อเพลิง  ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแตกร้าว ส่งผลให้พลังงานการขับเคลื่อนถูกตัดและขาดการควบคุมในเวลาขับขี่จึงได้ให้ผู้นำเข้าแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวแล้ว
ขณะที่สเปน  ตรวจพบอุปกรณ์ไฟตกแต่งรวม  6 รายการ ที่เสี่ยงต่อการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร  เพราะไม่ได้ผลิตตามมาตรฐานและเงื่อนไขที่กำหนด  จึงได้ปฏิเสธการนำเข้า
   
ส่วนฟินแลนด์  ตรวจพบของเด็กเล่นยี่ห้อ  Biltema 3 รายการเพราะมีความเสี่ยงต่อการหักหลุดของชิ้นส่วนขนาดเล็กไปติดคอเด็ก  ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัย  และยังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมทางอันตรายจากสารเคมี  เพราะสีที่ใช้ทาบนสินค้า มีส่วนผสมของตะกั่ว  ซึ่งเป็นโลหะหนักอันตรายเกินอัตราที่กำหนด  จึงให้ถอนการวางจำหน่ายแล้ว
 
นอกจากนี้  อียูยังรายงานว่า  ในช่วงหลังปี  2549 (กรกฎาคม – ธันวาคม) สินค้าอาหารของไทย  ได้รับการแจ้งเตือนภัยจากอียูมีทั้งหมด  39  รายการส่วนใหญ่จะถูกปฎิเสธนำเข้า หรือให้นำออกจากชั้นวางสินค้า  โดยสินค้าที่ถูกแจ้งเตือนบ่อยที่สุดคือ ผัก  16 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรก 2549 ที่ถูกแจ้งเตือน  12 ครั้ง  เช่นใบมะกรูดและใบโหระพา  ถั่วฝักยาว ผักชี และใบสะระแหน่  ตะไคร้ มะเขือยาว เพราะพบเชื้อซาลโมเนลลา  ซึ่งทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร  และสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงโอเมโทต เชื่อว่ากรณีดังกล่าวจะทำให้การนำเข้าผักของไทยในอียูได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้น  ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกำลังแก้ไขปัญหาอยู่
 
รองลงมาคือ  อาหารแช่แข็ง  8 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ถูกแจ้ง  3  ครั้ง โดยพบแคดเมียมในปลาหมึกแช่แข็ง พบการใช้สารคาร์บอนมอนอกไชด์ในปลาทูน่าแช่แข็ง ไก่ปรุงรสแช่แข็ง  เป็นต้น
 
สำหรับอาหารแปรรูป แจ้งเตือน   6 คร้ง  ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกที่ถูกแจ้งเตือน  17 ครั้ง เช่น สับปะรดอบแห้ง  เนื้อปลาทูน่าในน้ำมันพืช เยลลี  ถั่วกระป๋อง ส่วนใหญ่พบเชื้อแอลฟาทอกซิน  เป็นต้น ส่วนอาหารทะเลแจ้งเตือน  4 ครั้ง ลดลงจากครึ่งแรกที่ได้รับการแจ้งเตือน  3 ครั้ง เช่น  ปลา ปลาแห้ง  ปลารมควัน โดยพบแมลงและตัวอ่อนของแมลง เป็นต้น
   
 
ขณะที่อาหารสัตว์โดนแจ้งเตือน  2 ครั้ง คือ อาหารสุนัข ซึ่งยังไม่เคยถูกแจ้งเตือนมาก่อน เพราะพบซาลโมเนลลา และอื่น ๆ  3 ครั้ง ได้แก่ ชา กาแฟ สารปรุงแต่งอาหาร เพราะพบสมุนไพรที่ไม่ได้รับอนุญาตในชา กาแฟ และพบการฉายรังสีในสารปรุงแต่งอาหาร
อย่างไรก็ตาม  ประเทศในกลุ่มอียูที่มีการแจ้งเตือนภัยสินค้าอาหารและไม่ใช่อาหารนำเข้าจากประเทศไทยมาที่สุด คือ 
                              ฟินแลนด์ 11   ครั้ง
  สหราชอาณาจักร   9   ครั้ง
  นอร์เวย์   7   ครั้ง
  เนเธอร์แลนด์  3   ครั้ง
  อิตาลี   3   ครั้ง
ฝรั่งเศส สเปน ไซปรัส สวีเดน เยอรมณี ละกรีซ 1   ครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากรวมสถิติในปี 2549 สินค้าไทยถูกแจ้งเตือนทั้งสิ้น   75  ครั้ง
       
       
       
       
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ TODAY 19-04-07