|
นี่คือบางส่วนที่เป็นบทเรียนที่ผมนำมาจากสิ่งที่คาร์ลอสนำเสนอ |
|
คาร์ลอส บอกว่า การทำให้พนักงานร่วมมือและร่วมใจกัน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดความสนใจจากลูกค้า เป็นหัวใจของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในศตวรรษที่ 21 นี้ |
|
แต่ว่าการนำองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นแสนๆ คนให้มีวิสัยทัศน์ที่เหมือนกัน เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง และความท้าทายนี้ยิ่งมีมากขึ้นไปอีก หากต้องนำองค์กรขนาดใหญ่ 2 แห่ง ซึ่งมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาก แถมตั้งอยู่คนละซีกโลกคือ ยุโรป และเอเชีย |
|
แต่ว่าหากมีการจัดการที่ดี เราก็สามารถบริหาร แม้ว่าจะอยู่กันคนละทวีปเลยก็ตาม คาร์ลอส เผย |
|
องค์กรสององค์กรมาร่วมเป็นพันธมิตร โดยการถือหุ้นซึ่งกันและกันสามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีการควบรวมกันแล้ว มีเจ้าของรายเดียวในลักษณะว่าใครถือครองใคร |
|
การที่ทั้งสององค์กรยังคงเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้พนักงานของแต่ละแห่งรู้ว่าเขาขึ้นกับใคร และใครกระตุ้นจูงใจเขา |
|
การรวมตัวกันของเรโนลต์และนิสสัน โดยที่แต่ละแห่งยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองนั้น เป็นกรณีศึกษาที่มีน้อยแห่งทำ และประสบความสำเร็จ คาร์ลอสเปิดเผยเบื้องหลังว่ามาจากหลักการพื้นฐาน 3 ประการ คือ |
|
1.ให้เกียรติและเคารพในเอกลักษณ์ของแต่ละแห่ง เรโนลต์ยังคงเป็นเรโนลต์ และนิสสันยังคงเป็นนิสสัน เพราะว่าญี่ปุ่นและฝรั่งเศสต่างก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตน |
|
|
|
2.อำนาจการตัดสินใจที่อิสระ การตัดสินใจในเรื่องของเรโนลต์ทำกันในฝรั่งเศส ในขณะที่การตัดสินใจกิจกรรมของนิสสันก็ทำกันในญี่ปุ่น |
|
3.เราไม่ใช่ต้องการรวมกัน เพื่อแค่รวมสินทรัพย์ให้มากขึ้น ทุกๆ โครงการและกิจกรรมที่บริษัททั้งสองแห่งตกลงว่าจะทำร่วมกัน จะต้องให้ผลกำไรที่ดีขึ้นทางธุรกิจต่อทั้งสองฝ่าย |
|
คาร์ลอสบรรยายประมาณ 20 นาที จึงเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถาม |
|
มีนักศึกษาชาวญี่ปุ่นถามเขาว่า อะไรคือความท้าทายที่สุด ในระหว่างที่เขากู้วิกฤตให้กับนิสสัน |
|
สิ่งที่เราทำก็คือ ตอบโจทย์ทีละข้อ มุ่งความสนใจไปทีละเรื่อง เมื่อคนเห็นว่าเราค่อยๆ ทำได้ ความเชื่อมั่นก็เริ่มกลับมา |
|
การนำความมั่นใจกลับมาเป็นเรื่องสำคัญ ความมั่นใจไม่ใช่ความยโส ความมั่นใจคือทัศนคติ แต่ต้องมีความถ่อมตัว เราต้องรู้ว่าจุดแข็งของเราคืออะไร และจุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วพัฒนาจุดแข็ง หาทางแก้ไขจุดอ่อน และมุุ่่งข้างหน้าตลอดเวลา |
|
แล้วก็มาถึงคำถามที่น่าสนใจในการบริหารวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างฝรั่งเศสและญี่ปุ่น |
|
คาร์ลอสเกริ่นก่อนว่า เมื่อคนต่างชาติต่างภาษามาทำงานร่วมกัน ปฏิกิริยาแรกก็คือ เรามักจะมองสิ่งที่เป็นด้านลบของคนชาติอื่นก่อน เพราะความแตกต่างกัน |
|
สมมติว่าคุณมีพนักงานชาวญี่ปุ่น และพนักงานชาวฝรั่งเศสนั่งประชุมกันเรื่องการวางแผนธุรกิจ |
|
ชาวญี่ปุ่นจะมุ่งความสนใจไปที่การนำไปปฏิบัติจริง ในระหว่างวางแผนยุทธศาสตร์ เขาจะสงสัยในหัวตลอดเวลาว่า จะนำยุทธศาสตร์นี้ไปทำให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างไร ดังนั้น พวกเขามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจได้ช้า ในขั้นตอนแนวคิดหรือการวางกลยุทธ์ แต่ว่าเมื่อถึงเวลาลงมือปฏิบัติแล้ว พวกเขาจะทำได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะว่าเขาได้คิดมาในหัวของเขาตลอดในช่วงวางแผนเรื่องแนวคิด |
|
ในขณะเดียวกัน ชาวฝรั่งเศสจะมีความคล่องแคล่วและเชี่ยวชาญในการวางแผนเรื่องแนวคิดและยุทธศาสตร์ พวกเขาคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ อย่างรวดเร็ว แต่ว่าเวลาลงมือปฏิบัติ พวกเขาจะทำได้ไม่เก่ง ส่วนใหญ่มักจะมอบหมายให้คนอื่นนำไปปฏิบัติ |
|
พูดง่ายๆ ก็คือ ชาวญี่ปุ่นเก่งทำ ชาวฝรั่งเศสเก่งคิด |
|
ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายก็จะมองอีกฝ่ายหนึ่งด้วยกรอบความคิดที่ต่างกัน |
|
ญี่ปุ่นก็จะมองว่าฝรั่งเศสเก่งแต่พูด แต่ว่าลงมือทำไม่เป็นสับปะรด |
|
ฝรั่งเศสก็มองว่าญี่ปุ่นคิดช้า งุ่มง่าม |
|
หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ คุณต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนมุมมอง คุณต้องทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นเปลี่ยนความคิดใหม่เป็นว่า เราจะเรียนจากพวกฝรั่งเศสได้อย่างไร เพื่อเราจะได้มีกระบวนการคิดที่รวดเร็วในช่วงการวางแผน |
|
ในทางกลับกัน คุณก็ต้องทำให้ฝั่งฝรั่งเศสเปลี่ยนมุมมองใหม่เช่นกันว่า เราจะเรียนรู้จากพวกญี่ปุ่นว่า เราจะลงมือปฏิบัติงานอย่างไรได้เร็วและมีคุณภาพที่ดีเหมือนพวกเขา |
|
หากเราไม่บริหารจัดการ แล้วปล่อยให้พวกเขาลงมือทำงานร่วมกัน โดยยังมีมุมมองที่จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม งานก็จะไม่ก้าวหน้า |
|
เราต้องบริหารจัดการ เพื่อให้เขาเข้าใจว่าเราสามารถที่จะเรียนรู้จากคนที่แตกต่างกับเราได้ |
|
พวกเรามีแนวโน้มที่จะสุงสิงกับคนที่คล้ายๆ เรา มันง่ายดี แต่ว่าเราก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมมากนัก |
|
ในทางกลับกัน การทำงานและสังคมกับคนที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกับเรา เราอาจจะรู้สึกอึดอัด แต่ว่าเราจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย คนต่างวัฒนธรรมมาทำงานร่วมกันนั้น เราในฐานะฝ่ายบริหารต้องมีส่วนบริหารความแตกต่างนั้นด้วย มันไม่ง่าย แต่ว่าเมื่อเราทำได้ ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็คุ้มค่า |
|
|
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ : POST TODAY 19-03-07 |
|