THE  NAPOLEAN  HILL’S  LAWS  OF  SUCCESS
 
Dr. Napolean Hill
 
ตอนที่ 3 : เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน
 
“ความล้มเหลวขององค์กรหนึ่ง  อาจเป็นเพราะว่าสมาชิกบางคนมิได้มีสปิริตร่วมด้วยศรัทธา  ความซื่อสัตย์  และความจริงใจ !”
Dr. Hill พบว่า 95% ของคนทั่วไปทำงานไปวันๆโดยไม่มี “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน” คนเหล่านี้เผาผลาญพลังงานของตนเอง และความคิดของตนไปอย่างสุรุ่ยสุร่ายและสิ้นเปลือง โดยมิได้นำไปสู่—เป้าหมายใดๆ
 
Dr.Hill ยกตัวอย่างชายคนหนึ่งที่ขายถั่วคั่วที่มุมตึกซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานของเขาว่า
คนขายถั่วดูยุ่งทั้งวัน  ภาพที่ปรากฏต่อสายตาก็คือหากเขาไม่กำลังบรรจุถั่วใส่ถุงให้คนซื้อ  เขาก็จะง่วนอยู่กับการคั่วถั่ว  หากการขายถัวเป็นสิ่งที่ชายคนนั้นเลือกแล้วว่าเป็นสิ่งที่ “ดี” ที่สุดแก่เขาแล้วละก็ เราต้องเคารพว่ามันเป็นสิทธิส่วนตนที่เขาจะเลือกดำเนินชีวิตของเขาเอง  แต่หากเขาขายถั่วเพียงเพราะมีคนแนะนำให้เขาเชื่อตามโดยที่ไม่มีการไตร่ตรองเปรียบเทียบแล้วละก็  นั่นเป็นคนละเรื่องเหมือน—ฟ้ากับดิน เลยทีเดียว
 
 
เพราะหากเขาหยุดขายสัก 1 วันเพื่อหาข้อมูลของรายได้จากอาชีพอื่นๆ  เขาจะพบว่ายังมีอาชีพอีกหลายอย่างที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่านี้  และเขามีความสุขมากกว่านี้  ในขณะที่เหนื่อยเท่ากันหรือน้อยกว่า !
 
ที่สำคัญคือเขาต้องกล้าคิดฝันสิ่งอื่นๆนอกจาก –ถั่ว—คนไหนที่กำลังจะเดินมาซื้อถั่ว—และต้องคั่วถั่วเท่าไหร่ให้ทันคนที่จะมาซื้อ  !
 
เขาจะต้องกล้าที่จะค้นหา “ความต้องการที่ร้อนรุ่มของตน” ให้ได้เสียก่อน  และสร้าง “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน” ในใจขึ้นมา  พร้อมกับ “กำหนดแผนขั้นตอนในการกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมาย”
 
Dr.Hill สังเกตพบว่าคนหนุ่มสาวที่เรียนหนังสือจากการทำงานหาเงินเองส่วนใหญ่มักจะมีอนาคตที่ดีกว่าคนที่มีผู้ส่งเสีย  ทั้งนี้เพราะข้อเท็จจริงที่ว่า คนที่ช่วยตนเองจะมี “ความต้องการที่ร้อนรุ่ม”ในการประสบความสำเร็จ  เพราะเขาไม่หวังพึ่งคนอื่น—หรือเพราะไม่มีจะให้พึ่ง  ความชัดเจนในเป้าหมายของเขาจึงมีมากกว่า  ความใจจดใจจ่อในเป้าหมายจึงเข้มข้นกว่า “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน”เป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องกำหนดขึ้นมาเอง  ไม่มีใครกำหนดแทนแก่กันได้เพราะหากคนอื่นกำหนดแทนเมื่อใด  มันก็จะกลายเป็น—เป้าหมาย—ของคนที่กำหนดนั้นทันที ! เช่น  พ่อแม่ที่กำหนดให้ลูกๆว่า—เป็นหมอเถอะ  อนาคตดีแน่  หรือไม่ก็—เป็นวิศวกรเถอะ  เท่ดี เราเคยเห็นหนุ่มสาวที่พยายามทำตามทำความฝันที่พ่อแม่กำหนดให้  แต่สุดท้ายไม่สามารถทำได้ตลอดรอดฝั่งจนตนเองมีปัญหาขาดความเชื่อมั่นไปตลอดชีวิตหรือไม่  หรือเราเคยเห็นข่าวหนุ่มสาวที่คิดสั้นเพราะต้องการหนีความสับสนระหว่าง  “ความต้องการของคนอื่น” และ “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอนของตน”หรือไม่ ?
 
แต่ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นก็คือ—เราเคยเห็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านการเงินและด้านจิตใจโดยปราศจาก “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน” หรือไม่ ?  น่าจะไม่มี ความจริงข้อหนึ่งก็คือ –หากเป้าหมายเลือนลาง  การบรรลุความสำเร็จก็จะเลือนลางด้วย  แล้วเราจะไปไม่ถึงไหน !!!
 
 
คำแนะนำในการนำหลักการ—เป้าหมายสำคัญที่แน่นอนไปใช้
 
ก้าวแรกของหลักการนี้คือ
1-ตัดสินใจให้ได้ว่าเป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร
2-เขียนมันออกมาให้ชัดเจนอย่างรวบรัด
3-ติดเป้าหมายนี้ในสถานที่รอบตัวที่ๆเราจะเห็นมันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
4-กำหนดแผนการที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นอย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร
5-กำหนดสมาชิกกลุ่ม “อภิจิต” ที่จะมีส่วนต่อความสำเร็จของเป้าหมายให้อยู่ในแผนด้วย เช่น คู่ชีวิต  หุ้นส่วน เพื่อนร่วมงาน
  6-สร้างบรรยากาศของ “อภิจิต” ขึ้นมาให้ได้  นั่นคือการสร้างเป้าหมายของ “กลุ่ม” หรือคือ      “เป้าหมายที่สาม”
 
 
ที่ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง  แต่เป็น—เป้าหมายรวมที่ทุกคนมีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของ—ที่เขาเองก็อยากจะทำให้สำเร็จด้วย  เพราะเขา—ปิ๊ง  ได้ IDEA จากการโน้มน้าวจากหัวหน้ากลุ่ม “อภิจิต” จน “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน”นั้นอยู่ในใจของทุกๆคน !!!!  
   
ดู “อภิจิต”ของประเทศญี่ปุ่น , ประเทศอเมริกา ,ประเทศเกาหลี, ประเทศสิงคโปร์—ความเข้มข้นของวาระแห่งชาติ
ดู “อภิจิต” ของ—ประเทศไทย –ความเข้มข้นที่เรารับรู้ ?
   
หากเราล้มเหลว  ไม่ว่าเป็นการชั่วคราวหรือถาวร  สาเหตุอาจมาจากข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายสาเหตุประกอบกันดังนี้ :
   
1-การสร้าง “เป้าหมายที่สำคัญ” ยังไม่แน่นอน  ยังไม่ชัดเจนพอเพียง
 
2-การสร้าง “อภิจิต” ของเรายังไม่สมบูรณ์
 
3-สมาชิกบางคนในกลุ่มมิได้ร่วมอย่างเต็มหัวใจด้วยศรัทธา  มิได้ร่วมด้วยความซื่อสัตย์  มิได้ร่วมด้วยความจริงใจ ตามที่จะต้องมีให้ครบในฐานะที่เป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดของ “อภิจิต”
ย้ำ—หากสมาชิกมาร่วมอย่างจอมปลอม  มิได้ร่วมด้วยศรัทธาต่อเป้าหมายร่วมที่ทุกคนจะได้ประโยชน์  มิได้ร่วมอย่างซื่อสัตย์และจริงใจทั้งต่อหน้าและลับหลัง   ....
“เป้าหมาย” ไม่มีทางสำเร็จ !!
 
สิ่งใดก็ตามที่เราต้องการ  เราต้องทำให้มัน “แรงกล้า” มากพอ และรักษาความแรงกล้าไว้เสมอ !
ในโลกนี้  ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีราคาของมัน  แปลว่าไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีๆโดยไม่ต้องเหนื่อยลงแรงในการเอามา 
 
และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ใดๆก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับสิ่งที่ได้มาจาก “อภิจิต”—ความร่วมใจ—พลังเสริม (SYNERGY) —(การปรับรังสีจิตใจ—ความยึดมั่นในข้อผูกพันร่วม—ความสามัคคี) เรากำลังใช้กุศโลบายกับพลังที่ได้จากธรรมชาติอันทรงเกียรติ  เราจึงต้องเคารพในเกียรติอันนี้ด้วยการไม่ตบตา  ไม่หลอกลวงว่า—เราดูเหมือนเป็นสมาชิกกลุ่ม “อภิจิต”เดียวกัน—แต่ในใจไม่ใช่
 
หากไม่มีการตบตา ....
เราต้องจ่ายราคาด้วยการทุ่มเท  มุ่งมั่นในการให้ได้มาซึ่ง “เป้าหมายสำคัญที่แน่นอน” ด้วยความพยายามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ย่อท้อ ....
 
ไม่มีอะไรอื่นที่จะพูดได้มากกว่านี้อีกแล้ว  ....หากเราต้องการที่จะสำเร็จอย่างที่พูดจริงๆ !!!!!!
 
 
 
อืมม ....เราฝ่าฟันมาได้อีกขั้นหนึ่งสู่ความสำเร็จอย่างสวยงาม  คราวหน้าเราไปดูสูตรสำเร็จอีกขั้นหนึ่งกันนะครับ ....
.............................................................................................................