![]() |
|
THE NAPOLEAN HILLS LAWS OF SUCCESS |
ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ |
Dr. Napolean Hill |
ตอนที่ 1 : อภิจิต (MASTERMIND) | |
คุณทำได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ ! | ![]() |
จากการวิจัยชีวิตผู้คนยุคอุตสาหกรรมเฟื่องฟูสุดๆในอเมริกาถึงเกือบ 500 คน ซึ่งประกอบด้วยคนอย่าง Henry Ford (ผู้ก่อตั้งบริษัทและผลิตรถยนต์ FORD) , Thomas Edison (นักประดิษฐ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายพันชนิดรอบตัวเรา), Harvey Firestone (ผู้ก่อตั้งบริษัทยางรถ Firestone) , John D. Rockefeller(ผู้ก่อตั้งมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์) , Andrew Carnegie (เจ้าพ่ออุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่ |
![]() |
ใหญ่ที่สุดใน USA) , Alexander Graham Bell (ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลก) ,Theodore Roosevelt (ประธานาธิบดีคนที่ 26 ของ USA) , Woodrow Wilson (ประธานาธิบดีคนที่ 28 ของ USA) , Luther Burbank (ผู้ค้นพบทฤษฤีพันธุกรรม) , George Eastman (ผู้ประดิษฐ์ฟิล์มถ่ายภาพคนแรกของโลก,ก่อตั้งบริษัท Kodak) และอื่นๆอีกมากนั้น Dr.Hill เลือกที่จะเริ่มบทแรกของหนังสือขุมทรัพย์แห่งความสำเร็จจากชีวิตจริงของบุคคลเหล่านี้ด้วยเรื่องเกี่ยวกับความคิดจิตใจ |
เหมือนกับบอกเป็นนัยว่าหากใจไม่เอาด้วยแล้วทุกสิ่งก็ไม่ต้องคาดหวังว่าเราจะได้ตามที่ต้องการเพราะใจเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง (ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว) หรือหากไม่เข้าใจธรรมชาติของใจแล้ว การที่จะทำความเข้าใจในเรื่องที่จะอ่านในบทต่อๆไปจะไร้ประสิทธิผล อย่างเต็มที่ตามที่ Dr. Hill พยายามจะสื่อ |
จากการที่ผมได้เคยอ่านทั้งเล่มมาแล้ว 4 เที่ยว ผมเชื่อจริงๆว่า Dr. Hill ตั้งใจเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาด้วยความหวังดีที่บริสุทธิ์ต่อมนุษยชาติ ! ด้วยพื้นฐานความลำบากของชีวิตในวัยเด็กที่ต้องทำงานหนักตั้งแต่อายุ 13 ปี แต่เมื่อตนมีโอกาสที่ดีที่ แอนดรู คาร์เนกี้ หยิบยื่นให้จนสามารถสรุป PATTERN ที่ผู้ประสบความสำเร็จในอเมริกาในยุคนั้นสร้างตนเองขึ้นมาจากมือเปล่า เขาจึงอยากเผยแพร่ให้คนทั่วโลกที่ต้องการหลุดพ้นจากความยากลำบากได้รับรู้เส้นทางที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง เพื่อคนรุ่นใหม่ๆเหล่านี้จะได้ไม่ต้องไปย่ำรอยเท้าเดิมที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว แต่เดินไปบนเส้นทางที่จะประสบความสำเร็จแทน และจะได้หลุดพ้นจากความยากจนที่ทุกคนอยากหนีไปให้ไกล ! |
ผมคิดว่านี่เป็นความประเสริฐของ Dr. Hill ! | |
![]() |
|
จิตใจทุกดวงเป็นทั้งสถานีส่งและสถานีรับ | |
Dr. Hill เชื่อว่าการค้นพบวิธีส่งคลื่นเสียงผ่านเส้นลวดของ Alexander Graham Bell จนกลายมาเป็นโทรศัพท์ หรือการค้นพบคลื่นวิทยุที่สามารถส่งสัญญาณเสียง หรือแม้กระทั่งภาพได้อย่าง | |
ไม่ผิดเพี้ยนจากของจริงนั้น เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่าด้วยการจัดการที่เหมาะสม คนเราสามารถส่งพลังงานจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งที่ไกลๆได้ และด้วยความถ่อมตัว มนุษยชาติไม่ควรจำกัดความคิดตนเองว่าสิ่งที่ตนได้รู้ในวันนี้ครอบคลุมทุกสิ่งของธรรมชาติแล้ว ตรงกันข้าม น่าจะมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากที่รอให้เราค้นพบ ! |
อย่างเช่นกฏฟิสิกส์ข้อหนึ่งที่กล่าวว่าพลังงานและสสารย่อมไม่สูญหายไปจากโลกนั้น ในฐานะที่ความคิดเป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ทำไมเราจะไม่คิดว่าความคิดของคนอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่ในหัวของเขาคนเดียว และด้วยกฏฟิสิกส์ดังกล่าว |
![]() |
มันอาจล่องลอยในบรรยากาศที่นักวิทยาศาสตร์ในวงการคลื่นวิทยุเรียกมันว่าอีเธอร์ (Ether) ซึ่งเป็นตัวกลางเดียวกันกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ส่งคลื่นวิทยุข้ามไปข้ามมาทั่วโลก หรือแม้กระทั่งไปนอกโลก ! |
แต่ที่หูหรือสมองของเราไม่ได้ยินหรือไม่สามารถรับคลื่นที่อยู่รอบตัวเราได้นั้นก็เพราะคลื่นเหล่านั้นถูกจัดการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มันถูกเปิดรับได้ด้วยอุปกรณ์พิเศษที่ทำให้สัญญาณรับตรงกันกับสัญญาณส่งนั่นเอง ! |
ด้วยเหตุผลเดียวกัน Dr. Hill เชื่อว่าบรรยากาศรอบๆตัวเรานี้มีความคิดที่อยู่ในรูปของพลังงานผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอดเวลาเหมือนคลื่นวิทยุที่มีเป็นร้อยๆคลื่น เพียงแต่ว่า ....สมองของเราไม่สามารถรับรู้มันเพราะยังไม่มีการปรับสัญญาณรับคลื่นในสมองให้ตรงกันกับสัญญาณที่ส่งมา ! | |
ปฏิกิริยารังสีจิตใจ |
Dr. Hill เชื่อว่าความคิดจิตใจนั้นเป็น ของไหล มันสามารถไหลถ่ายเทได้ เพราะอยู่ในรูปของพลังงาน ซึ่งอาศัย อีเทอร์ ในการเป็นสื่อนั้นสามารถจัดการได้ |
ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มนุษย์ที่อยู่ด้วยกันตามธรรมชาติเพราะต้องการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากสื่อสารกันได้ดีก็ถือเป็นพวกเดียวกัน หากสื่อสารกันไม่ได้หรือตรงกันข้ามก็ถือเป็นศัตรู นั่นคือเมื่ออยู่ในช่วงที่ยังไม่ศิวิไลซ์ | |
ปัจจุบัน มนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมามาก นอกจากจะเรียนรู้ว่าโลกนี้กลมแล้ว เรายังเรียนรู้ว่าถึงแม้จะพูดกันคนละภาษา แต่ถ้าหากความคิดจิตใจอยู่ในแนวทางสันติและสร้างสรรค์แล้ว เรายังคงพึ่งพากันได้บนความแตกต่าง ทั้งชาติพันธุ์ , เพศ , และวัย | |
![]() |
เมื่อคนสองคนขึ้นไปมาพบกันใหม่ๆ หากเราสามารถหาวิธีที่จะให้การพึ่งพากันมีประสิทธิภาพสูงที่สุดได้ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์มหาศาล ! (Win-win ,รวมพลังประสานความต่างจาก 7-Habits !) |
คนที่เคยมีความรู้สึกตื่น ไม่ไว้วางใจคนแปลกหน้าที่พบกันใหม่ๆ มักจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้รู้จักกันนานพอ | |
นั่นก็เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างปรับรังสีจิตใจเข้าหากันนั่นเอง ! แต่นั่นเป็นได้แค่พอจะเข้ากันได้ ไม่ขัดแย้งกัน เท่านั้น ! | |
ความหมายของอภิจิต | |
อภิจิต เกิดขึ้นมาจากการผสมผสานจิตใจด้วยความกลมเกลียวกันของกลุ่มคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่ร่วมกันสร้างจิตใจที่สาม ขึ้นมา จิตใจที่สามนี้แหละที่จะเป็นแรงขับดันกลุ่มคนนี้ไปสู่เป้าหมายที่เห็นพ้องกัน จิตใจที่สามนี้อาจจะไม่เหมือนจิตใจของแต่ละปัจเจกบุคคลที่มีอยู่เดิมก่อนที่จะก่อกำเนิดจิตใจที่สามนี้ขึ้น แต่หลังจากที่มีจิตใจที่สามนี้ ทุกคนในกลุ่มก็ยึดมันเป็นคัมภีร์ในการอยู่ร่วมกัน เช่น : | |
![]() |
สามีภรรยา มี อภิจิต ผูกพันร่วมกันในการสร้างครอบครัวโดยยอมละทิ้งสิ่งที่แต่ละคนเคยเป็นเมื่อก่อนแต่งงาน ที่ทั้งคู่อยากมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ! |
ทหารแม่ทัพ มี อภิจิต ผูกพันร่วมกันในการยอมสละชีพเพื่อให้ได้มาซึ่ง เป้าหมาย แม้ก่อนมีสงครามทุกคนก็กลัวตาย ! | |
เซลส์แมน--หัวหน้าทีมที่ขายประกันชีวิตหลังจากผ่านการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว มักจะมี อภิจิต ที่ผูกพันเขาไว้ด้วยหลักการของการขายเพื่อช่วยให้เขาเอาชนะความขี้อาย ความท้อแท้ที่ถูกปฏิเสธ แถมมีแรงโถมทับเข้าสู่การนำเสนอขายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่รู้สึกอายที่จะลองวิธีใหม่ๆ รู้สึกสนุกว่างานที่ทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่ท้าทาย และงานก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตที่น่าตื่นเต้น ! | |
อภิจิต เกิดขึ้นได้เพราะมันถูก ปรับเข้าหากัน และ ไหลถ่ายเท ในกลุ่มคนที่อยู่ด้วยกันระหว่างผู้นำกลุ่มที่รู้วิธีกระตุ้นและสร้าง--จิตใจที่สามขึ้นมาให้เป็นที่ยอมรับร่วมกันอย่างผูกพันคนทั้งกลุ่มเข้าด้วยกัน | |
Dr.Hill เชื่ออย่างแรงว่า หากกลุ่มคนหนึ่งๆสามารถสร้าง อภิจิตขึ้นมาได้แล้ว นอกจากความคิดในสมองของสมาชิกจะไหลถ่ายเทกันไปมาในระหว่างกลุ่มแล้ว มันยังเหมือนการต่อแบตเตอรี่แก่พลังสมองของทุกคนให้แรงขึ้นจนกระทั่งสามารถดึงดูดความคิดในบรรยากาศ ที่ไหลมาจากแหล่งอื่นๆที่ไกลแสนไกลได้อีกด้วยโดยผ่านอีเทอร์ ! นั่นเป็นเพราะในขณะที่กลุ่มคนนั้นๆกำลังร่วมกันเพ่งร่วมกันคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนเกิด |
อภิจิตนั้น เป็นสภาวะการณ์ที่สมองของพวกเขาได้ปรับสัญญาณคลื่นให้เปิดรับไปสู่ความรู้ ในเรื่องนั้นๆที่ถูกส่งมาจากที่ใดที่หนึ่ง อาจจะมาจากสมองของปราชญ์คนใดคนหนึ่งที่เคยคิดไว้และถูกปล่อยให้ล่องลอยในอีเทอร์ และบังเอิญถูกดึงดูดเข้าไว้ด้วย อภิจิต ที่กลุ่มนั้นๆสร้างขึ้นมา !(ทำนองเดียวกับที่ความคิด ....มัน แว๊บ เข้ามา อยู่ดีๆก็คิดขึ้นมาได้ ) | ![]() |
![]() |
|
อภิจิต จึงประกอบด้วยคำ 3 ปัจจัยที่จะขาดไม่ได้เลย : 1-การปรับรังสีจิตใจเข้าหากัน 2-ความยึดมั่นในข้อผูกพัน และ 3-ความสามัคคี Dr.Hill กล่าวว่า ผู้นำจะต้องมีทักษะในการสร้าง อภิจิตขึ้นมาให้ได้จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จขั้นแรก (เท่านั้น) ก่อนที่คิดจะเอาชนะอุปสรรคอื่นๆอีกมากมายที่รออยู่ !! | |
คุณอยากประสบความสำเร็จใช่ไหม ตอนหน้าเราจะไปดูว่า ....อะไรเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดที่คอยขวางกั้นคนส่วนมากไม่ให้สำเร็จ เพื่อที่เราจะได้รู้วิธีจัดการกับมัน ....ดีไหมครับ ? |
............................................................................................................. |