![]() |
|
THE NAPOLEAN HILLS LAWS OF SUCCESS |
ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ |
ภูมิหลังของหนังสือ ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ |
ดร.นโปเลียน ฮิลล์ ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างยากจน ในกระท่อมไม้ซุงของเมืองวิสเคาน์ตี้ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ.1883 และถึงแก่อสัญกรรมที่เมืองกรีนวิลล์ รัฐเซ้าท์คาโรไลนา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ.1970 | ![]() |
![]() |
เมื่อเป็นเด็กเขาได้รับการเลี้ยงดูจากแม่เลี้ยงที่เฉลียวฉลาด และมีความอดทนซึ่งรักเขาประดุจลูกในไส้ ท่านเป็นคนที่กระตุ้น เด็กที่มีปัญหา คนนี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีการศึกษา และประสบความสำเร็จในชีวิต |
![]() |
ในค.ศ.1908 ขณะที่เขามีอายุได้ 25 ปีและกำลังทำงานให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งเพื่อหาเงินเป็นค่าเล่าเรียนในวิทยาลัย วันหนึ่ง เขาได้รับมอบหมายให้เข้าทำการสัมภาษณ์แอนดรู คาร์เนกี อภิมหาเศรษฐีซึ่งเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า นักปราชญ์ และนักบริจาคเพื่อกิจการสาธารณกุศล | |
![]() |
||
แอนดรู คาร์เนกี
|
แอนดรู คาร์เนกี มีความประทับใจในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ถึงกับเชื้อเชิญเขาให้เป็นแขกในคฤหาสน์ของเขาตลอดเวลาสามวันสามคืน คนทั้งสองสนทนากันในเรื่องปรัชญา ผู้อาวุโสได้ |
พรรณาถึงชีวิตและหลักปรัชญาของนักปราชญ์หลายต่อหลายคน โดยเฉพาะในส่วนที่ได้ผลักดันอารยธรรมให้ก้าวไปข้างหน้าแก่เด็กหนุ่ม ซึ่งฟังด้วยความปิติยินดี |
ระหว่างการสนทนา มร.คาร์เนกี ได้ชี้ให้เห็นหลักการและแนวความคิดเหล่านั้น ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและชัดเจน รวมทั้ง วิธีการ ที่คนทั่วๆไปสามารถที่จะเอาไปใช้ในงานอาชีพ สังคม และชีวิตครอบครัว |
แอนดรู คาร์เนกี รู้ธรรมชาติของมนุษย์ เขารู้ว่าวิธีที่จะทำให้มนุษย์ลงมือทำงานด้วยพลังงานระดับที่สูงส่ง และมุ่งมั่นต่อไปจนประสบความสำเร็จ ก็คือ ด้วยการท้าทาย เด็กหนุ่มคนนี้ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงได้รับการท้าทาย |
![]() |
|
อะไรที่มีอยู่ในประเทศนี้ ที่ชาวต่างประเทศอย่างฉันและคนอื่นๆ สามารถที่จะเอามาใช้ในการสร้างธุรกิจและความมั่งคั่งสมบูรณ์ ? มร.คาร์เนกีถามขึ้นในตอนหนึ่ง แต่ก่อนที่เด็กหน่มจะตอบออกมาเขาก็พูดต่อไปว่า ฉันขอท้าให้เธออุทิศเวลาในชีวิตของเธอสักยี่สิบปี เพื่อทำการศึกษาปรัชญาแห่งความสำเร็จของชาวอเมริกันอย่างสมบูรณ์เธอจะรับไหม ? | |
รับครับ เด็กหนุ่มตอบเกือบจะในทันทีทันใด | |
แอนดรู คาร์เนกี มีข้อสังเกตอยู่ว่า...สิ่งใดก็ตามที่มีคุณค่าแก่ชีวิต ย่อมคุ้มค่าต่อการทำงานเพื่อให้ได้มา เขามีความเต็มใจที่จะอุทิศเวลาส่วนตัวเพื่อให้คำปรึกษาและเขียนจดหมายแนะนำเด็กหนุ่มผู้นี้ต่อบุคคลสำคัญๆในยุคนั้น และเขาเต็มใจที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการนี้ เป็นต้นว่า ค่าเดินทาง โดยเป็นที่เข้าใจกันว่า นโปเลียน ฮิลล์ จะต้องดำรงชีวิตด้วยรายได้ของตนอง | |
![]() |
ระหว่างยี่สิบปีต่อมา นโปเลียน ฮิลล์ ได้ทำการสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จกว่าหนึ่งร้อยคน ในจำนวนนี้มี เฮนรี่ ฟอร์ด, วิลเลี่ยม ไวท์เล่ย์ จูเนียร์, จอห์น วานาเมกเกอร์, จอร์ช อีสแมน ,อดีตประธานาธิบดี ธีโอดอร์ โรสเวลท์, จอห์น ดี .ร๊อกกี้เฟลเลอร์, โทมัส อัลวา เอดิสัน, เอลเบิร์ต ฮับบาร์ด, เจ.โอเจน อาร์เมอร์,ลูเธอร์ เบอร์แบงค์ , ดร. อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ , และ จูเลียต โรเซ็นวาร์ด รวมอยู่ด้วยและเขาก็ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยรายได้ของตนเองจริงๆ โดยใช้หลักการต่างๆที่เขาได้เรียนรู้มาจาก มร.คาร์เนกี และคนที่เขาสัมภาษณ์ จนในที่สุด เขาก็ได้รวบรวมหนังสือ The Laws of Success หรือ ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ |
เล่มนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1928 (ยี่สิบปีนับจากวันที่ได้รับมอบหมายจาก แอนดรู คาร์เนกี) เริ่มด้วยหนังสือชุด 8 เล่มจบก่อนที่จะรวบรวมพิมพ์ขึ้นเป็นเล่มเดียว ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้กระตุ้นคนนับหมื่นในส่วนต่างๆ ของโลกให้บรรลุความมั่งคั่งร่ำรวยหรือทำงานที่ทำอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในชีวิต |
ความสำเร็จของหนังสือเล่มนี้ทำให้ นโปเลียน ฮิลล์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯถึงสามคนด้วยกัน คือ วิลเลี่ยม โฮวาร์ด ทัฟต์,วู๊ดโร วิลสัน และแฟรงคลิน ดี.โรสเวท์ รวมทั้ง การเป็นที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีมานูเอล แอล.เควซอน ในการรณงค์เพื่อปูทางเอกราชให้แก่ประเทศฟิลิปินส์ |
................................................................................................................ |
คำนำของผู้แปล |
ข้าพเจ้าได้แปลหนังสือ ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ เล่มนี้ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 และได้พิมพ์เป็นหนังสือ (สองเล่มจบ) ครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2524 แล้วรวมเข้าเป็นเล่มเดียวจบในการพิมพ์ครั้งที่ 8 ในปี พ.ศ. 2544 ตราบจนปัจจุบันก็เป็นเวลาร่วมยี่สิบเจ็ดปีแล้ว |
![]() |
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับ ข่าวดี จากคนหลายๆคน คนที่ได้รับความประทับใจจากหนังสือเล่มนี้ บางคนขอบคุณที่ข้าพเจ้าแปลหนังสือเล่มนี้ เพราะทำให้เขาได้อ่านและนำไปใช้ประโยชน์ จนสามารถสร้างความสำเร็จให้แก่ชีวิตของตนได้ บางคนร่ำรวยและมีความสุขกับชีวิต บางคนต่อว่าข้าพเจ้าที่มีได้ทำการโฆษณาหนังสือดีๆ เล่มนี้ทำให้เขาขาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จที่ควรจะได้รับในอดีต บางคนกว่าจะมาพบหนังสือหนังสือเล่มนี้ก็ได้สูญเสียธุรกิจและทรัพย์สมบัติของตนไปแล้ว ด้วยความจริงใจ ข้าพเจ้าต้องขออภัยอย่างยิ่งที่มิได้ทำการ โฆษณาเผยแพร่หนังสือเล่มนี้อย่างที่มันน่าจะได้รับการโฆษณาเหตุผลข้อหนึ่งก็คือ ระหว่างพิมพ์เผยแพร่หนังสือเล่มนี้ในช่วงแรกนั้น |
ข้าพเจ้าไม่มีทุนรอนมากพอที่จะทำการโฆษณาหนังสือนี้ได้ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ความรู้สึกของข้าพเจ้าเองที่คิดว่าหนังสือที่ดีขนาดนี้ไม่น่าที่จะทำการโฆษณาเพราะคนที่ แสวงหา หนังสือที่ดีเช่นนี้ ย่อมจะได้พบในที่สุด (และจนได้) การโฆษณาหนังสือเล่มนี้จะทำให้น่าสงสัยมากกว่า เพราะสิ่งที่ดีจริงๆแล้วสามารถติดต่อกันได้แบบปากต่อปาก และเท่าที่ผ่านมาร่วมยี่สิบเจ็ดปีก็ได้พิสูจน์ความเชื่อของข้าพเจ้าว่ามันเป็นความจริง | |
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเชื่อว่า หนังสือที่ดีแล้วควรจะได้มีการทบทวนและแก้ไขส่วนที่บกพร่องในเวลาอันสมควร เพราะข้าพเจ้าเองก็พบหนังสือบางเล่มที่ดีเด่นในอดีต แต่มิได้รับการปรับปรุงแก้ไขในการพิมพ์ครั้งหลังๆ มีส่วนบกพร่องที่น่าเสียดาย ยิ่งผู้เขียนหรือผู้แปลเสียชีวิตไปแล้วก็ยิ่งไม่มีใครเข้าไปแก้ไขปรับปรุง ในเมื่อข้าพเจ้าเองยังมีชีวิตอยู่ก็น่าที่จะทำการแก้ไขปรับปรุงเสียเอง มิฉะนั้นคงจะไม่มีใครมาจับทำเพราะคนที่รู้จักหนังสือคงจะไม่มีใครสามารถรู้จักได้ดีเท่ากับผู้ที่ทำมันมากับมือของตนเอง | |
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ข้าพเจ้าเริ่มแปลหนังสือเล่มนี้ขณะที่เรียนอยู่ในปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย หลังจากพิมพ์หนังสือครั้งแรกแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้พบกับคนหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แม้ชีวิตของข้าพเจ้าเองก็ประสบกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย จากคนโสดเป็นคนที่มีครอบครัวแล้วก็กลายมาเป็นพ่อหม้ายเพราะภริยาเสียชีวิต | ![]() |
วันเวลาสอนข้าพเจ้าว่าสิ่งที่แน่นอนก็คือสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่มีใครบอกเราได้ว่าอะไรกำลังรอเราอยู่ในอนาคต และอนาคตของคนเราแต่ละคนจะไปกันได้ไกลแค่ไหน วันเวลาบอกข้าพเจ้าในสิ่งที่ครูของข้าพเจ้าคนหนึ่งในสมัยเรียนมัธยมสอนเอาไว้ว่า จงทำขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ตายแล้วอย่าบ่นว่าไม่ได้ทำ ครูคนนั้นได้ตายไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน และบัดนี้ ข้าพเจ้าก็ได้ปรับปรุงหนังสือ ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ แล้วก่อนที่จะต้องมาบ่นเสียดายที่ไม่ได้ทำ |
![]() |
ข้าพเจ้าเขียนบทนำนี้ หลังจากที่คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความเป็นศิริมงคลใน งานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ใจจริงข้าพเจ้าอยากจะให้ผลงานชิ้นนี้เป็นการร่วมฉลองนี้ด้วย หากแต่สำนึกในตนเองว่า ข้าพเจ้าเป็นเพียงนักแปลอิสระในหนังสือพิมพ์เล็กๆ ที่แทบจะไม่มีความหมายเลยในโลกหนังสือ |
การอาจเอื้อมเช่นนั้นจะเป็นที่ตำหนิของคนอื่นไปเปล่าๆ แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย ซี่งรวมทั้งข้าพเจ้า คุณพ่อของข้าพเจ้าที่ได้ล่วงลับไปแล้ว และคุณแม่ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมาเกือบชั่วชิวิตของท่าน ข้าพเจ้าขอน้อมเกล้าฯถวายบุญกุศลใดๆ ที่อาจจะพึงมีพึงได้จากหนังสือทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตลอดชีวิต โดยเฉพาะหนังสือ ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ เล่มนี้ เป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ | |
เป้าหมายสำคัญในชีวิต ของข้าพเจ้า นับตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าได้อ่านและแปลหนังสือเล่มนี้ ก็คือ อยากจะเผยแพร่ความรู้ แนวความคิด และปรัชญาของหนังสือเล่มนี้แก่ชาวไทย ซึ่งตราบจนทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็ทำได้แล้วพอสมควรแม้จะยังไม่มากเท่าที่เคยคาดหวังเอาไว้ สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากจะทำต่อไปก็คือ การบรรยายและอภิปรายให้ความรู้แก่สาธารณชนทั่วไป เพื่อให้ ปรัชญาชีวิต ที่น่าจะมีประโยชน์แก่คนทุกคนนี้ "เข้าถึง" คนที่อาจจะไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือ หรือไม่สมารถทำความเข้าใจได้ทั้งหมด | |
ปสงค์อาสากรกฏาคม 2548 |
|
................................................................................................................ |