ตอนอวสาน
 
ตอนอวสานของ The 7-Habits of Highly Effective People
 
อุปนิสัยที่ 7 : ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ (ตอนที่ 2)
มิติด้านสติปัญญา
การพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของเราส่วนใหญ่จะมาจากการเรียนในสถานศึกษา  แต่ทันทีที่ออกมาสู่นอกระบบโรงเรียน  ส่วนใหญ่จะปล่อยให้สติปัญญาลดน้อยถอยลง  เราเลิกอ่านหนังสือประเทืองปัญญา  เราไม่มีการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติม เราไม่คิดในเชิงวิเคราะห์  หรือในลักษณะที่จะทดสอบความสามารถของเราในการแสดงออกอย่างชัดเจน
อุปนิสัยที่  3 (ทำสิ่งที่สำคัญก่อน-การจัดลำดับความสำคัญ) จะช่วยให้เราสามารถจัดสรรค์เวลาเพื่อใช้กับสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสติปัญญาของเราท่ามกลางทางเลือกที่มีมากมายกลาดเกลื่อนในท้องตลาดเช่น TV หนังสือ  วารสาร ฯลฯ
การศึกษาอย่างต่อเนื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมมากในโลกที่เล็กลงอันเนื่องมาจาก Internet การอ่านหนังสือดีๆ  การไขว่คว้าหาความรู้ที่จะช่วยให้การทำงานของเราอยู่ในพื้นที่หมายเลข 2 จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากความเร่งด่วน 
ฉุกละหุกอยู่ตลอดเวลาของพื้นที่หมายเลข 1 ได้(7-Habits ตอนที่ 10)
   
การเขียนเป็นอีกวิธีหนึ่งของการลับเลื่อยให้คมได้  การบันทึกความคิดของเราใน Diary ถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในชีวิตประจำวัน  ได้ข้อสรุปจากการลองผิดลองถูก  การบันทึกความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนของเราแทนที่การจดอย่างผิวเผินจะทำให้ความคิดของเราเป็นระเบียบ  มีรอยหยักของความชัดเจนในสมอง  เพิ่มความคมของรอยหยักของสมอง  สะสมจนมีมากพอจนแน่ใจในตนเองขนาดที่ว่าจะหยิบมาสื่อสารกับใครก็ได้ทันทีที่ตรงกับความรู้สึกของตนอย่างไม่อ้อมค้อม  และบ่อยครั้งก็กินใจผู้ฟังอย่างเป็นธรรมชาติ ( Naturally touching ) ! ฟังแล้วรู้ว่าออกมาจากใจ  ไม่เสแสร้ง !!
 
 
“สงครามถูกรบชนะตั้งแต่อยู่ในที่พักของนายพล” คงไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย หากเราจะเห็นความเชื่อมโยงของอุปนิสัยที่ 1,2,3 ซึ่งเราถือว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังของ “ชัยชนะส่วนตนในแต่ละวัน” ที่มีแนวทางที่ถูกต้องอยู่แล้วย่อมที่จะชนะสงคราม  ยิ่งถ้ามีการลับให้คมอยู่เสมอด้วย “การเพิ่มสติปัญญา” ของนายพลแล้ว  โอกาสที่เขาจะวางกลยุทธที่ดีเลิศจนนำไปสู่ชัยชนะต่อสงครามก็ยิ่งสูงขึ้น  !
 
หลักการนี้ก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตการทำงานของเราเหมือนกัน !
 
 
มิติด้านสังคม / อารมณ์
ในขณะที่มิติที่กล่าวมาทั้งสามด้านเกี่ยวข้องอย่างมากกับอุปนิสัยที่ 1,2,3 ซึ่งมีศูนย์กลางชีวิตอยู่ที่วิสัยทัศน์  ความเป็นผู้นำและการจัดการส่วนบุคคล....
 
มิติด้านสังคม / อารมณ์ จะเน้นที่อุปนิสัยที่ 4,5,6 ซึ่งมีศูนย์กลางชีวิตที่หลักการของการเป็นผู้นำระหว่างบุคคล  การสื่อสารกันอย่างเข้าอกเข้าใจ  การแสวงหาความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ !
 
การเติมพลังชีวิตในมิติด้านสังคม / อารมณ์ ของเราสามารถทำได้ทุกวันทุกเวลาที่มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น  แต่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยถ้าเราไม่มีความเป็นธรรมชาติของ 3 อุปนิสัยแรกที่เราซึมซับมานานพอเพียงจน “กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา  เราจะคิด  จะพูด  จะแสดงก็ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่มีอื่น  สิ่งที่เราพูด  แสดง จะตรงกับที่เราคิดเสมอ !”
การแสดงออกของเราเป็นไปด้วยความมั่นคงในอารมณ์  เพราะมันออกมาจากจิตใต้สำนึก  ไม่ต้องเสียเวลาในการปรุงแต่งมันมาจากภายในสู่ภายนอก  มาจากความเชื่อมั่นว่ามันถูกต้องเพราะมันวางอยู่บนหลักการที่ผ่านการกลั่นกรองมาหลายรอบแล้ว !  
 
ความมั่นคงภายในใจของเรามาจากการ
เชื่อว่า “ชนะ / ชนะ” มีอยู่จริง
เชื่อว่า “ทางเลือกที่สาม” มีอยู่จริง
เชื่อว่า “ผลประโยชน์ของส่วนรวมที่เกิดจากการบริการโดยไม่หวังชื่อเสียง  สิ่งตอบแทน”มีอยู่จริง
เชื่อว่า “ความเข้าใจผู้อื่นก่อนที่จะให้เขาเข้าใจเรา”มีอยู่จริง
เชื่อว่า “การยอมเปลี่ยนแปลงเล็กๆจากคนๆหนึ่งสามารถนำไปสู่ความสำเร็จแบบปฏิกริยาลูกโซ่ขององค์กรได้”มีอยู่จริง
เชื่อว่า “1+1=8 , 10 , 16 ได้ หากทุกคนในองค์กรเชื่อมั่นในอุปนิสัย ทั้ง 7 ”มีอยู่จริง
 
 
 
 
อืมม์....ครบ 7 อุปนิสัยใน 4 มิติ แล้วนะ ....ในที่สุดผมเห็นความสุกใสจากรัศมีในตัวคุณที่เปล่งออกมาอย่างเต็มที่  !
You’re so beautiful   !!!
With the right “PC”, there is hope for us !
 
     “ไม่มีความเป็นเลิศใดๆในโลกนี้  ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง”
David  Star  Jordan
   
---------------------------------------จบบริบูรณ์-------------------------------------------