ตอนที่
12 |
6 วิธีในการฝากบัญชีออมใจ |
![]() |
1- เข้าใจในแต่ละบุคคล | |
บางทีความพยายามเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นอาจเป็นวิธีฝากบัญชีออมใจที่สำคัญที่สุด และยังเป็นกุญแจสำคัญไปสู่วิธีอื่นๆที่เหลือทั้งหมดคุณไม่มีทางรู้ว่าคุณจะทำอะไรถ้าคุณไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร | ||
ในขณะที่คุณกำลังทำงานที่สำคัญอยู่ ลูกอายุ 16 ปีของคุณเข้ามารบกวนด้วยเรื่องที่สำคัญสำหรับเขาเหมือนกัน คุณคงต้องใช้อุปนิสัยที่ 2 ในการให้ความสำคัญกับสัมพันธภาพที่สำคัญระหว่างพ่อกับลูกด้วยความเข้าใจว่าหากคุณละเลยความต้องการของลูกของคุณแล้ว โอกาสที่คุณต้องการให้เขามาปรึกษาคุณในวันหลังอาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้ | ||
เบื้องหลังของวิธีฝากบัญชีออมใจนี้ก็คือ ให้เราพยายามเห็นความสำคัญของผู้อื่นก่อนตนเองนั่นเอง เพราะมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่จะเห็นตนสำคัญกว่าผู้อื่น ( SELF CENTERED) หากเราไม่พยายามฝืนมันก็เท่ากับว่าเราจงใจปล่อยให้การมองตนเองเป็นหลัก ให้มีอิทธิพลเหนือความพยายามเข้าใจผู้อื่นนั่นเอง และในที่สุดเราก็จะไม่สามารถเข้าใจผู้อื่นได้ตามที่ต้องการ และเมื่อใดก็ตามที่เราละเลยการใส่ใจผู้อื่น ความหวังที่จะสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่นก็ต้องพังพินาศตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ! | ||
2- ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย | ![]() |
|
ความเอื้ออาทรเล็กๆน้อยๆความมีน้ำใจมีความสำคัญต่อการฝากบัญชีออมใจเหมือนกัน หรือการแสดงถึงการใส่ใจคนหนึ่งน้อยกว่าอีกคนหนึ่งก็คุ้มสำหรับการพิจารณาในการปฏิบัติ เพราะตราบใดที่เกี่ยวข้องกับ ความรู้สึก ของคนแล้วสมควรถือเป็นเรื่องใหญ่เสมอ | ||
![]() |
3- รักษาคำมั่นสัญญา | |
การรักษาสัญญาเป็นการฝากบัญชีออมใจอย่างหนึ่ง ตรงกันข้ามการไม่รักษาสัญญา จะถอนบัญชีออมใจและอาจจะมีผลเสียมากกว่าการที่คุณไม่ได้สัญญาอะไรเลยตั้งแต่แรก | ||
4- ทำความเข้าใจเรื่องความคาดหวังให้ชัดเจน | ||
การฝากบัญชีออมใจคือการทำความเข้าใจกับความคาดหวังให้ชัดเจนตั้งแต่แรก แม้จะดูเหมือนเสียเวลาในการอธิบายแต่แรก แต่ผลของมันคุ้มค่าเพราะมันช่วยให้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกัน และไม่ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน แถมเวลาแก้ความเข้าใจผิดก็ใช้เวลานานกว่ามากแล้วยังอาจแก้ไม่ได้ผลด้วยซ้ำ ! | ||
ลองจินตนาการถึงความแตกต่างที่คุณอาจเผชิญเมื่อคุณและหัวหน้าของคุณมีข้อสันนิษฐานที่ต่างกัน : | ||
คุณอาจถามหัวหน้าว่า เมื่อไหร่ผมจะได้รายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่การทำงานของผม ? หัวหน้าคุณอาจตอบกลับมาว่า ผมกำลังคอยให้คุณมาหาผม เพื่อที่จะได้คุยกันเรื่องนี้ ผมคิดว่าคุณจะเป็นคนกำหนดมาให้ผม คุณตอบ นั่นไม่ใช่หน้าที่ของผมสักนิด คุณจำไม่ได้หรือตั้งแต่วันแรกที่คุยกันว่าคุณเป็นคนกำหนดหน้าที่การงานของคุณเอง ? หัวหน้าของคุณอาจจะแย้งกลับแบบนี้ | ||
ความไม่ชัดเจนบ่อยครั้งทำให้เกิดปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าใครเป็นคนทำให้เกิดขึ้นก็ตาม มันทำลายความไว้วางใจต่อกันลง มันเป็นการถอนบัญชีออมใจออกไป การทำความคาดหวังให้ชัดเจนบางครั้งต้องการความกล้าหาญ ต้องการความเป็น PROACTIVE ที่ชัดเจนที่ว่าไม่ต้องการให้เกิดปัญหาสัมพันธภาพ ในเมื่อเห็นๆอยู่ตั้งแต่แรกว่า ทำความชัดเจนแต่แรกย่อมดีกว่าการตามแก้ปัญหาในภายหลัง ! | ||
5- แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น | ||
ความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นก่อให้เกิดความน่าไว้ใจและเป็นพื้นฐานของการฝากบัญชีออมใจในหลายสิ่ง ตรงกันข้าม การไม่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นสามารถทำลายความพยายามเกือบทุกอย่าง ไม่มีใครไว้ใจคนที่ตีสองหน้า ! ความซื่อสัตย์คือการ พูดแต่ความจริง พูดแต่สิ่งที่เป็นความจริง | ||
สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างบัญชีออมใจก็คือ การซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ ลองคิดถึงการที่คุณปกป้องคนที่ไม่อยู่ในขณะนั้น คุณได้สร้างความไว้วางใจแก่กลุ่มคนที่อยู่กับคุณ ในทางตรงกันข้าม ลองคิดว่าในขณะที่ผมและคุณกำลังวิจารณ์หัวหน้าของเราด้วยคำพูดชนิดที่ว่าคุณไม่กล้าพูดเวลาที่เขาอยู่ต่อหน้า หลังจากที่แยกย้ายกันไปแล้ว คุณอาจคิดได้ว่าผมคงเคยนินทาคุณให้คนอื่นฟังเหมือนที่เคยนินทาหัวหน้าเพราะคุณได้เห็นพฤติกรรมของผมแล้ว คุณคิดว่าวิธีนี้จะสร้างความไว้วางใจในบัญชีออมในใจที่คุณมีแก่ผมหรือไม่ ? | ||
ในระยะแรก คนจำนวนมากอาจจะไม่ชอบการเป็นคนซื่อสัตย์ของคุณเพราะคนมักจะชอบคนที่คล้อยตามคำพูดของเขามากกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความกล้ายืนหยัดไม่ร่วมเข้าวงนินทา ไม่ร่วมคล้อยตามสิ่งที่ไม่เป็นความจริงที่ขัดแย้งกับความซื่อสัตย์ของคุณ หรือแม้แต่แก้ต่างเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกวิจารณ์ลับหลังตามข้อเท็จจริง แต่ในระยะยาวแล้ว คนจะเชื่อถือคุณ ให้ความเคารพคุณที่คุณเป็นคนกล้าเผชิญกับความเป็นจริงต่อหน้าเขา ในระยะยาวสิ่งที่คุณจะได้นอกจากความเชื่อถือแล้ว คุณยังได้ความรักจากผู้คนไปพร้อมๆกันด้วย ! | ||
6- กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ | ![]() |
|
คนที่กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจได้จะต้องเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความมั่นคงในหลักการและมีค่านิยมอย่างมากในการที่จะขอโทษและเนื่องจากคุณสมบัติของข้อ 5 ในการเป็นคนซื่อสัตย์ ทำให้เขาไม่ต้องการทำร้ายจิตใจแก่ผู้บริสุทธิ์ซึ่งเขาต้องการที่จะขอโทษด้วยความรู้สึกที่แท้จริงไม่ใช่เพราะ มารยาทสังคม แต่อย่างใด | ||
เราได้รู้จักวิธีเพิ่มบัญชีออมใจกันแล้ว คราวหน้าเราไปรู้จักกับอุปนิสัยที่ 4 กันนะครับ ! | ||