ดนตรี(คลาสสิก)ดีๆ ไม่มีกระได (บัณฑิต อึ้งรังษี) |
รายงานโดย :อินทรชัย พาณิชกุล: จากหนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์
|
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552
|
![]() |
งานวิจัยนับร้อยชิ้นได้พิสูจน์ออกมาเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ดนตรีคลาสสิกมีประโยชน์กว่า 40 ประการ นอกเหนือไปจากการพัฒนาสมองให้มนุษย์ฉลาดขึ้น |
ดนตรีคลาสสิกยังช่วยเพิ่มสมาธิ วินัย ความสงบของจิตใจ ประสิทธิภาพในการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์แจ่มใส และศักยภาพของมนุษย์อีกมากมายหลายด้าน |
แต่เหตุใดคน (ไทย) ทั่วไปจึงเข้าถึงดนตรีคลาสสิกได้ยากเหลือเกิน? |
คำบ่นดังๆ เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิกที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงยาก ไล่ตั้งแต่จำชื่อเพลงไม่ได้ ความยาวของชิ้นงาน เพลงบรรเลงแบบไร้เนื้อและเสียงร้อง ซึ่งอาจทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง ฟังแล้วเบื่อ ง่วง เครียด อีกทั้งเวลาไปฟังคอนเสิร์ตคลาสสิกยังต้องแต่งเนื้อตัวให้ดีและมีพิธีรีตองอีกนับไม่ถ้วน ทำให้ดนตรีคลาสสิกถูกจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มแวดวงไฮโซ หรือผู้มีการศึกษาเท่านั้น |
จริงๆ แล้วคนไทยอยากเสพดนตรีดีๆ แต่สังเกตในที่ผ่านมาพบว่าคนป้อนดนตรีดีๆ เข้าสู่ตลาดมันมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยดี และดนตรีคลาสสิกเป็นดนตรีประเภทเดียวที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็นสิ่งดีมีประโยชน์ แต่คนที่มีหน้าที่ป้อนเข้าสู่ตลาดกลับป้อนให้คนฟังไม่ถูกวิธี เพราะมักนำเสนออะไรที่มันยากเกินไป หนักหน่วงเกินไป แทนที่จะนำเสนอส่วนเบาๆ เล็กๆ ให้เขารู้สึกชอบก่อน แล้วค่อยเพิ่มมันเข้าไป นี่เป็นอุปสรรคใหญ่เลยของเพลงคลาสสิกกับคนไทย |
เป็นคำบอกเล่าของ บัณฑิต อึ้งรังษี คนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยหรืออยู่ในสังคมชั้นสูง แต่สามารถก้าวข้ามความฝันไปเป็นวาทยกรระดับโลกได้ | ![]() |
วันนี้เขาอาสามาทลายกำแพงมหึมาที่ขวางกั้นมานาน เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงความมหัศจรรย์ในดนตรีคลาสสิก ...โดยไม่ต้องปีนบันไดฟังอีกต่อไป | |
บัณฑิต เล่าต่อว่า ดนตรีคลาสสิกไม่ใช่ดนตรีของคนชั้นสูง ย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว นักประพันธ์เพลงเอกของโลกอย่าง โมสาร์ต บีโธเฟน ไชคอฟสกี ฯลฯ ต่างไม่ใช่คนมีฐานะร่ำรวย มีศักดินาแต่อย่างใด แต่เป็นคนธรรมดาเดินดินเหมือนคนทั่วไป อีกทั้งเพลงของพวกเขาคนทั่วไปก็ฮัมเพลงตามไปได้ในสมัยนั้น |
ยุคต่อมามันมีการสร้างภาพซึ่งเกิดจากคน ที่เราเห็นนักดนตรีใส่สูท เครื่องดนตรีราคาแพง บรรยากาศจัดแบบใหญ่โตอลังการ คนมาฟังก็แต่งตัวโชว์เสื้อผ้าหน้าผม อวดสร้อยเพชรเครื่องประดับกัน สิ่งเหล่านี้บางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องของดนตรีเพียวๆ แต่มันเป็นเรื่องของสังคม คนชั้นสูงพวกนี้จริงๆ แล้วอาจไม่ได้ชอบดนตรีคลาสสิกด้วยซ้ำ แต่มาเพื่อพบปะผู้คนในแวดวงของตน การไปดูคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกบ่งบอกระดับรสนิยมได้ในระดับหนึ่ง |
ตัวผมเองก็ไม่ใช่คนชั้นสูง เป็นคนธรรมดาๆ ที่หลงใหลเพลงคลาสสิกอย่างหัวปักหัวปำ เหตุผลเพราะมันเป็นดนตรีที่ฟังแล้วไม่ใช่ซาบซึ้งหัวใจ แต่มันลึกไปถึงจิตวิญญาณ และทำให้ผมอิ่มเอิบจนถึงอยากใช้ชีวิตอยู่กับมัน อีกอย่างผมรู้สึกว่าดนตรีคลาสสิกมันเป็นดนตรีที่มีคุณค่า มันถูกพิสูจน์มาแล้วด้วยกาลเวลา ถ้าเป็นที่นิยมมาหลายร้อยปี ก็ต้องมีค่าอะไรสักอย่างที่ทำให้คนทั่วโลกฟังมาตลอด เขาบรรยายถึงความรู้สึกเหล่านั้นออกมาจากหัวใจ |
ต่อไปนี้คือคำแนะนำง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่เคยฟังดนตรีคลาสสิก และกำลังจะเริ่มฟังเป็นครั้งแรก |
![]() |
1.ต้องใช้หัวใจฟัง เลือกฟังเฉพาะที่ตนเองชอบ เพลงไหนไม่ชอบก็ไม่ต้องฟัง |
2.ฟังซ้ำๆ เพลงไหนชอบก็ฟังบ่อยๆ ยิ่งฟังจะยิ่งได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังก่อนถึงจะซาบซึ้ง ปล่อยให้ความรัก (ในบทเพลง) ของเราโตตามธรรมชาติ |
สรุปแล้วคือ หาเพลงที่เข้าถึงหัวใจเราก่อนเป็นอย่างแรก อาจเป็นทำนองที่โดนใจ จังหวะที่เร้าใจ เสียงกระหึ่มของวงออร์เคสตราที่เล่นพร้อมกันทั้งวง ฯลฯ จากนั้นจึงฟังเพลงนั้นบ่อยๆ |
ผมแน่ใจว่าหลายคนในวงการคลาสสิกโลกคงต้องวิจารณ์ผมอย่างมากมายแน่ แต่ผมไม่สน เพราะผมเชื่อว่าดนตรีดีๆ แบบนี้ควรจะมีการนำเสนอที่ทันสมัยหน่อยให้เหมาะกับคนสมัยนี้ ไม่ใช่นำเสนอแบบเดียวกับสามร้อยปีที่แล้ว บัณฑิต ยืนยันถึงเหตุผลของเขาในการย่อยเพลงคลาสสิกระดับตำนานเหล่านี้ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่สุดแก่ผู้ฟังชาวไทย แม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาก็ตาม |
ฝ่ายมาตรฐานอาคาร |
Department
of Quality Management |
![]() |