นิยามของคำว่า “ ประสิทธิผล ”
     
 
7 อุปนิสัยเป็นอุปนิสัยของคนที่มีประสิทธิผล เนื่องจากอุปนิสัยเหล่านี้วางอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง มันจึงก่อ ประโยชน์สูงสุดในระยะยาว หากใครมีอุปนิสัยนี้ติดตัวไปก็จะช่วยสร้างให้เกิดแผนที่ที่ถูกต้องในการทำงานทุกสิ่ง แก้ปัญหาทุกสิ่ง สามารถใช้โอกาสที่มีได้มากที่สุด สามารถเรียนรู้และรวบรวมหลักการอื่นๆจากคนอื่นเข้ามาผสมกับหลักการของตนจนเกิดการหมุนวงขึ้นสู่ระดับปัญญาที่สูงขึ้นๆ ( UPWARD SPIRAL ) เพื่อประโยชน์สูงสุดของงานให้ไปสู่ความก้าวหน้าต่อไป!
 
นอกจากนี้ 7 อุปนิสัยนี้ยังอยู่ในกรอบความคิดที่สอดคล้องกับหลักการธรรมชาติ ที่มีการสร้างจุดสมดุลระหว่าง P ( PRODUCTION- ผลผลิต ) และ PC ( PRODUCTION CAPABILITY- ความสามารถในการผลิต )
     
นิทานอีสปเรื่อง “ ไข่ทองคำ ” จะทำให้เห็นความหมายของ P , PC ได้ดีขึ้น
     
  มีชาวนาจนๆคนหนึ่งพบว่าห่านของเขาตัวหนึ่งไข่ออกมาเป็นทองคำวันละฟอง ทุกๆคืนเขาจะรอคอยอย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้เช้าวันใหม่มาถึงเร็วๆ เพื่อที่เขาจะได้ไปเก็บไข่ ทองคำ เขาทำเช่นนี้ทุกวันจนฐานะร่ำรวยขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
   
ด้วยความละโมบ เขาอยากรวยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาทนไม่ได้ที่จะรอเก็บไข่ทองวันละหนึ่งฟองจึงตัดสินใจ ผ่าท้องห่านของเขาตัวนั้นเพื่อจะเอาไข่ในท้องห่าน ออกมาให้หมดในคราวเดียว แต่เขากลับไม่พบ อะไรเลย หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไข่ทองคำตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา !  
 
 
 
 
   
     
สิ่งที่นิทานเรื่องนี้สอนเราคือกฏธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดคิดว่า การผลิตยิ่งมาก จะทำให้ยิ่งมีประสิทธิผล แต่ที่ถูกต้องคือ
     
“ ประสิทธิผลที่แท้จริงประกอบไปด้วยสองสิ่งคือ 1- ผลผลิต (PRODUCTION - ในที่นี้คือ ไข่ทองคำ ) และ 2- ความสามารถในการผลิต (PRODUCTION CAPABILITY ในที่นี้คือ ตัวห่าน
     
ในชีวิตจริง หากเราสนใจแต่ไข่ทองคำและไม่สนใจตัวห่าน ในไม่ช้าเราก็จะไม่มีไข่ทองคำ !
     
     
ทรัพย์สิน 3 ประเภท    
     
โดยพื้นฐานทั่วไป เราสามารถแบ่งทรัพย์สินออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ วัตถุ เงิน และมนุษย์ เราลองมาดูรายละเอียดทีละประเภทดังต่อไปนี้
     
วัตถุ - เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมซื้อเครื่องตัดหญ้ามาเครื่องหนึ่ง ผมใช้มันอย่างสมบุกสมบันโดยไม่เคยคิดจะบำรุงรักษามันเลย มันทำงานได้ดีเพียงหนึ่งปีเท่านั้นก็เสีย มันกลายเป็นเศษเหล็กที่ไร้ค่าไปทันที !
     
     
ตรงกันข้ามกับเพื่อนผมที่ซื้อมารุ่นเดียวกันพร้อมๆกัน เขาบำรุงรักษาเครื่องตัดหญ้า (PC) อย่างสม่ำเสมอ และสามารถมีสนามหญ้าที่สวยงาม (P) ได้นานกว่าผมถึง 2 ปี เทียบกันแล้ว ผมช่างไม่มีประสิทธิผลเสียเลย !
     
คราวนี้ลองมาดูทรัพย์สินตัวที่สอง - เงิน คุณเคยคิดหรือไม่ที่จะยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคุณ ผมคงไม่ต้องย้ำว่าทุกคนย่อมอยากได้ไข่ทองคำมากๆ (P) แต่มีสักกี่คนที่จะรู้ว่าการลด....การตัดทอนหลักการที่สำคัญๆ ( ตัดลด PC) จะนำไปสู่ประสิทธิผลการหารายได้ที่น้อยลง และมีเงินเข้ามาน้อยลงตามไปในที่สุด !
     
ทรัพย์สินทางด้านการเงินที่สำคัญที่สุดของเราคือความสามารถในการหารายได้(PC)หากเราไม่สนใจในการพัฒนาความสามารถนั้นให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็เหมือนกับว่าเรานั่นแหละเป็นผู้ “ จำกัด ” และ “ กำจัด ” โอกาสในการได้ “ ไข่ทองคำ ” ของเราเอง !
     
     
ทรัพย์สินสุดท้ายที่จะกล่าวถึงและที่น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษคือ “ มนุษย์ ” เมื่อคนสองคนแต่งงานกัน และสนใจแต่ ผลประโยชน์ ( ไข่ทองคำ ) มากกว่าที่จะรักษา ความสัมพันธ์ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นปัจจัยหลักในการทำให้ไข่ทองคำนั้นเกิดขึ้นได้จริง บ่อยครั้งเขาจึงไม่ได้ให้ความรู้สึกสนใจต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเขาละเลยในการแสดงออกซึ่งเป็นสิ่งสร้างสรรค์ให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองให้ดีขึ้น พวกเขากลับแก่งแย่งความมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง ตัดสินใจจากมุมมองของตนเอง มองหาเหตุผลที่บอกว่าตนเอง “ ถูก ” และอีกฝ่ายหนึ่ง “ ผิด ” ขณะนี้ ห่านของเขาทั้งคู่....เริ่มป่วย และกำลังอาการทรุดลงทุกวัน
แล้วผลของความสัมพันธ์ที่มีต่อลูกจะเป็นเช่นไร ?
     
หากเรามองสถาบันครอบครัวว่ามีผลอย่างมากต่อการสร้าง “ ไข่ทองคำ ” ของครอบครัวของคุณ คุณคิดว่า ความสัมพันธ์ของหัวหน้าครอบครัว แบบสมานฉันท์ หรือ แบบปรปักษ์ ในสายตาของลูกจะให้ไข่ทองคำมากกว่ากัน ?
     
     
หรือวิธีคิดในการเลี้ยงดูลูกมี 3 วิธี :    
     
1- การเลี้ยงด้วยคำสั่ง ด้วยวิธีนี้คุณอาศัยความมีประสบการณ์มาก่อน อาศัยที่ตัวใหญ่กว่าในการสั่ง และลูกจำเป็นต้องอาศัยคุณเพราะเขายังเล็ก คุณจึงใช้เสียงที่ดังกว่า “ สั่ง ” ได้ง่ายมาก
คุณอาจมีเหตุ ผลที่ว่า “ เพื่อไข่ทองคำของครอบครัว ” จึงต้องสั่ง แต่คุณแน่ใจหรือว่า การที่คุณละเลยด้าน PC ในการอบรมทักษะการคิดด้วยเหตุผลของลูก การแย้งผู้ใหญ่อย่างสุภาพ การมีทักษะ ในการฟังผู้อื่นที่ดีที่เขาเห็นจากพ่อแม่  
 
 
 
 
 
 
ที่ทำให้เป็นตัวอย่างในขณะที่เขายังเล็กอยู่นั้น จะให้ไข่ทองคำ (P) แก่ครอบครัวของคุณสูงสุด ? ( เปรียบเทียบ “ ครอบครัว ” และ “ องค์กร ” มีความเหมือนกันหรือไม่ ?)
     
     
2- การเลี้ยงด้วยการตามใจ ด้วยวิธีนี้คุณอาจเลือกประนีประนอมแม้ในสิ่งที่ผิดแก่ลูกด้วยการตามใจ ไม่กล้าขัดใจลูก ด้วยเข้าใจว่าความเงียบสงบ จะทำให้คุณได้ไข่ทองคำมา ( ไม่มี ความเครียด แล้วทำให้เราทำงานได้ดีขึ้น )
  แต่พวกเขาก็จะเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีคุณค่าที่มี มาตรฐานที่ดีพอ เขาไม่มีวินัย เขาขาดความมั่นใจจากการที่ได้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ( เพราะมีคนคอยเอาอกเอาใจทำให้ทุกอย่างตั้งแต่เล็ก ) ความเอาแต่ใจตนจากความเคยชินในสมัยเด็กจะมีผลต่อบุคลิกภาพในการทำงานที่มองแต่มุมของตนเอง ละเลยผู้อื่น ความสามารถในการสื่อสารจะเป็นเช่นไร ที่จะเข้าสังคมเข้ากับผู้อื่น
 
 
 
 
 
 
  และเป็นที่ยอมรับนับถือที่ยาวนานพอที่จะสร้าง “ ไข่ทองคำ ” แก่วงศ์ตระกูลของคุณได้ เพราะวิธีนี้ทำให้ “ ห่าน ” ของคุณป่วย และความสามารถ ในการผลิตไข่ทองคำของลูกคุณก็จะถดถอยไปเรื่อยๆจนหมดในที่สุด !
 
( เปรียบเทียบ “ ครอบครัว ” และ “ องค์กร ” มีความเหมือนกันหรือไม่ การปล่อยให้ลูกน้องที่ไม่มีระเบียบวินัยโดยไม่คิดแก้ไขจะส่งผลอะไรแก่ “ ห่าน ” ขององค์กร ??)
     
     
3- การเลี้ยงบนพื้นฐานการออกแบบคุณค่าที่พึงประสงค์ไว้ล่วงหน้า แล้วฟูมฟักในการเลี้ยงลูกให้เป็นไปตามกรอบนั้นๆ อย่างมีเป้าหมาย เช่นหากเชื่อว่า “ ไข่ทองคำ ” ที่มากที่สุดของครอบครัวมาจาก ความสามารถในการหารายได้ของทุกคน คือตั้งแต่ พ่อ แม่ ลูกเมื่อเติบใหญ่ ลูกจะมีความสามารถในการหารายได้เมื่อเขาเติบใหญ่ก็ต่อเมื่อ :
     
3.1- ครอบครัวไม่แตกแยก ความปรองดองของพ่อ - แม่ทำให้ลูกได้เรียนหนังสือสูงสุด
     
เนื่องจากไม่มีการสะดุดติดขัดๆในด้านการศึกษาอันเนื่องจากปัญหาสารพัดที่น่าปวดหัวสำหรับเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ทำให้ลูกมีความมั่นใจในตนเองสูง ความสำเร็จชิ้นหนึ่งจะ นำไปสู่ความสำเร็จอื่นๆเป็นลูกโซ่ หากเรา ขยายความหมายของ “ ไข่ทองคำ ” ไปถึง ความมั่นใจในตนเองของลูก การที่พ่อแม่ ลงทุนใส่ใจในการเรียนของลูกจะสร้างความมั่นใจว่าเขาเป็นเด็กเรียนดีได้ก็จะเป็นบันไดไปสู่ ความสำเร็จอื่นๆไม่รู้จบ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น PC ที่ต้องมี แล้วเมื่อเวลาสุกงอม “ ไข่ทองคำ (P)” ที่เป็น “ ทองคำ ” จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องยาก !
     
     
3.2- การมีประชาธิปไตยในบ้าน การเปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็นด้วยเหตุผลในครอบครัวทำให้ทุกคนสามารถพบศักยภาพที่แท้จริง ที่ไม่ถูกสั่งให้คิด หรือถูกสั่งให้เป็นตามที่พ่อแม่ต้องการ ผลคือลูกจะพบสิ่งที่ตนเองทำได้มีความสุขที่สุด ทำเท่าไรก็ไม่เหนื่อยและไม่เบื่อ ผลงานจะได้ดีที่สุด นำไปสู่ไข่ทองคำที่แท้จริงในระยะยาว ในเวลาเดียวกัน ลูกจะใช้ความมีเหตุผลไปใช้เมื่อเข้าสังคม ไม่ใช้ตำแหน่งหรือความเป็นใหญ่ในการเอาชนะผู้อื่นในการทำงานอย่างเอาแต่ใจ ดังนี้แล้วลูกจะเป็นที่รักและนับถือของผู้อื่นด้วยใจ เมื่อความสามารถ (PC) มีถึงขนาดนี้แล้ว “ ไข่ทองคำ (P)” จะหนีไปไหนพ้น !
     
     
3.3- การมีวินัย การมีความเชื่อในการพึ่งพาตนเอง ความประหยัดมัธยัสถ์ ความอดทนต่องานหนักความมุ่งมั่นในการทำงานให้สำเร็จ ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ คิด พูด ทำอย่างมีคุณภาพ ความซื่อสัตย์ และการกล้าแสดงจุดยืนของตนเป็นต้น คุณค่าเหล่านี้จะทำให้ลูกมีความน่าเชื่อถือ เมื่อความสามารถ (PC) มีถึงขนาดนี้แล้ว “ ไข่ทองคำ (P)” จะหนีไปไหนพ้น !
     
     
     
ตอนหน้าเราจะไปดู P และ PC ในองค์กรว่าแนวคิดจากนิทาน “ ไข่ทองคำ ” จะชี้ปมอะไรแก่เราบ้าง !