7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง |
||
โดย STEPHEN R. COVEY เรียบเรียงโดย สงกรานต์ จิตสุทธิภากรย่อและสรุปใหม่โดย ฝ่ายมาตรฐานอาคารบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ( มหาชน ) |
|
![]() |
เกริ่นนำ |
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า THE 7 HABITS | ||
OF HIGHLY EFFECTIVE PEOPLE เป็นหนังสือที่ STEPHEN R. COVEY เขียนในระหว่างปี 2513-2523 ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการทำวิทยานิพนต์ระดับปริญญาเอกของเขาในหัวข้อ อะไรคือปัจจัยของความสำเร็จตลอด 200 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลกคือได้มีการพิสูจน์จากการ ปฏิบัติตามหลักการที่ระบุในหนังสือแล้วปรากฏว่าประสบผลสำเร็จจริง จนได้รับการยอมรับอย่างมากจากผู้บริหารระดับสูงสุดในองค์กรชั้นนำของโลกเช่น JAMES C. FLETCHER (NASA) , RICHARD M. DEVOS(AMWAY) , NOLAN ARCHIBALD(BLACK & DECKER) , TOM PETERS ( ผู้แต่งหนังสือเรื่อง IN SEARCH OF EXCELLENCE) , KEN BLANCHARD ( ผู้แต่งหนังสือเรื่อง ONE MINUTE MANAGER ) และบุคคลอื่นๆอีกมากมาย |
ผมเห็นว่าในเมื่อแนวคิดและวิธีปฏิบัติดังกล่าวได้สร้างความสำเร็จจากความมีประสิทธิผล | ||
แก่หลายองค์กรทั่วโลกมาแล้ว จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรของเราและผู้รับเหมาซึ่งเราถือเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญยิ่งของเราในการพัฒนา 7 อุปนิสัย ดังกล่าวในการบรรลุเป้าหมายความมีประสิทธิผลอันจะนำประโยชน์ที่ยั่งยืนร่วมกันของทุกฝ่ายต่อไป |
ภาพรวมของ 7
อุปนิสัย
|
|||
![]() |
เราในวันนี้เป็นผลจากการที่ได้ปฏิบัติซ้ำกันหลายๆครั้ง
หลังจากนั้น ความเป็นเลิศ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องจำใจปฏิบัติอีกต่อไป
แต่มันกลายเป็นอุปนิสัยที่เรายินดีทำเพราะความเคยชิน |
||
อริสโตเติล |
|||
อุปนิสัยในตัวเราหลายๆอย่างประกอบขึ้นมาเป็น คุณลักษณะ ของเราดังคำกล่าวที่ว่า | |||
ปลูกความคิด - ผลที่ได้คือการกระทำ | |||
ปลูกการกระทำ - ผลที่ได้คืออุปนิสัย | |||
ปลูกอุปนิสัย - ผลที่ได้คือคุณลักษณะ | |||
ปลูกคุณลักษณะ - ผลที่ได้คือ ชะตาชีวิต | |||
อุปนิสัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิต เพราะมันเกิดขึ้นตลอดเวลาจนเกือบจะไม่รู้ตัว มันบ่งบอกและประกาศแก่ผู้อื่นว่าเราเป็นผู้มีประสิทธิผลหรือไม่เพียงใด และความมีประสิทธิผลนี้แหละที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเรา ! | |||
![]() |
การเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยนั้นยากเพราะ ต้องใช้พลังมหาศาล เปรียบเหมือนจรวดที่กำลังขับเคลื่อนขึ้น ไปในอวกาศที่ต้องออกแรงมหาศาลเพื่อต้านแรงโน้มถ่วงของโลก การทำลายอุปนิสัยเก่าๆเช่น การผลัดวันประกันพรุ่ง การขาดความอดทน การชอบวิพากษ์วิจารณ์ การเห็นแก่ตัว ความมักง่าย ความย่อหย่อนต่อปัจจัยความยั่งยืน ที่ล้วนแล้วแต่ละเมิดหลักการพื้นฐานของการมีประสิทธิผลนั้น | |
![]() |
||
การเอาชนะมันต้องอาศัยความพยายามอย่างมาก แต่เมื่อหลุดพ้นจากมันได้แล้ว อิสรภาพที่เราได้รับจะนำเราไปสู่ มิติใหม่ซึ่งนำประโยชน์มาให้มหาศาลจนอาจทำให้เราประหลาด ใจว่า ทำไมเราจึงไม่ทำมาก่อนหน้านี้ ? เหมือนดาวเทียมที่ ลอยอยู่ในอวกาศที่ใช้พลังเพียงน้อยนิดก็ สามารถเดินทางไปสู่ที่หมายใหม่ได้อย่างง่ายดาย ! | ||
นิยามของคำว่า อุปนิสัย ( HABIT) | ||
อุปนิสัย ในที่นี้หมายถึงองค์ประกอบที่เกิดขึ้น จากส่วนผสมของ ความรู้ ทักษะ และ | ||
ความปรารถนา ความรู้คือสิ่งที่เราเคยพบประสบมาก่อนแล้วจำเก็บไว้ในสมองว่า - ทำอะไร - ทำไมจึงทำ ทักษะคือสิ่งที่เราทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชินว่า - ทำอย่างไร ความปรารถนาเป็นแรงจูงใจต่อความต้องการที่ - จะทำในอนาคต | ||
จะเห็นได้ว่าหากในทุกๆวันเรามีความรู้ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน ทำให้เกิดทักษะใหม่ๆทุกวัน | ||
จนกระทั่งเกิดความปรารถนาใหม่ๆทุกวัน การเปลี่ยนแปลงตัวตนและโลกทัศน์เป็นขบวนการที่ขยายวนขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ( UPWARD SPIRAL ) ตัวตนจะเปลี่ยนโลกทัศน์ ในทางกลับกัน โลกทัศน์ก็จะเปลี่ยนตัวตน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เราทำด้วยความรู้ ทักษะ และความปรารถนาที่สูงขึ้น เราก็จะสามารถทะลุไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิมได้ ทั้งในแง่ส่วนตนและความสัมพันธ์กับผู้อื่น สิ่งที่น่าแปลกคือคนส่วนใหญ่มักจะสรุปเอาเองว่าสิ่งที่เราเคยคิด เคยทำแบบเดิมๆนั้นให้ความมั่นคงที่สุดแก่เรา........และมักจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงมักจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด ! ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วเรายังไม่มีความชัดเจนเลยว่าสิ่งที่เรา คุ้นเคย นั้นดีที่สุดแล้วจริงหรือ ? เรารู้ได้อย่างไรว่ามันดีที่สุดในเมื่อยังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังไม่ได้เห็น ? และวิธีหนึ่งเดียวที่เราจะมองเห็นสิ่งที่ ไม่เคยเห็น ได้ก็คือ การคิดนอกกรอบเดิม หรือ การเห็นด้วย - จินตนาการ ! | ||
การคิดนอกกรอบ ที่ว่านั้นก็คือ อุปนิสัย นั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ! พัฒนาได้ ! | ||
![]() |
อุปนิสัย ที่จะกล่าวถึงต่อจากนี้ไปจะประกอบด้วย : | ||
1-BE PRO-ACTIVE | ![]() |
|
2- เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ | ||
3- ทำสิ่งที่สำคัญก่อน | ||
4- คิดแบบ ชนะ - ชนะ | ||
5- เข้าใจผู้อื่นก่อน - แล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา | ||
6- ผนึกกำลังประสานความต่าง | ||
7- การหมั่นลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ | ||
จะเห็นได้ว่า อุปนิสัย 1,2,3 นำไปสู่ ชัยชนะส่วนตน ส่วนอุปนิสัย 4,5,6 ซึ่งนำไปสู่ ชัยชนะต่อสังคม ส่วนข้อ 7 เป็นตัวควบคุมให้ทั้ง 6 ข้อเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
ชัยชนะส่วนตน จะต้องมาก่อน
เกิดขึ้นก่อน ชัยชนะต่อสังคม จึงจะเป็นจริงได้ !
จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นประเทศที่พัฒนาแล้วจะยิ่งเจริญหนีทิ้งห่างเราไปแบบอัตราเร่ง เพราะประชาชนของเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้
พึ่งตนเองได้ รัฐบาลของเขาใช้สมองมุ่งไปในเรื่องสร้างโอกาสด้านความเจริญอื่นๆได้เต็มที่
ไม่ต้องคอยอุ้มประชาชนมากเหมือนอย่างเราที่จะไปข้างหน้าก็ต้องคอยพะวงหลังเหมือนเตี้ยอุ้มค่อม ! จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศที่เจริญแล้วอย่างอเมริกาจะมีคติประจำชาติเช่น :
|
||
SELF SUFFICIENCY ( การพึ่งพาตนเอง ) | ||
CAN-DO SPIRIT ( หากเรากล้าที่จะทำอะไร ทุกสิ่งเป็นไปได้เสมอ ) | ||
DON'T ASK WHAT THE COUNTRY CAN DO FOR YOU , BUT WHAT YOU CAN DO FOR YOUR COUNTRY ! ( อย่าถามว่าประเทศจะทำอะไรให้คุณ แต่จงถามว่าคุณจะให้อะไรแก่ประเทศ ) | ||
ตอนหน้าเราจะไปทำความรู้จักกับปัจจัยแต่ละข้อของ 7 อุปนิสัยกันครับ | ||