"ถ้าจะมีใครสักตัวที่จะทำให้ผู้ที่อยู่บนพื้นโลกเห็นได้ไกลออกไปสักพันไมล์
ก็คงจะเป็นนางนวล : โจนาทาน ลิฟวิงสตัน นั่นเอง"
นางนวลซัลลิแวนหัวเราะขึ้นทั้ง
ๆ ที่รู้ว่าไม่ควร "เธอนกบ้า" มันพูดขึ้นอย่างใจดี
เธอไม่คิดหรือว่าเราอาจจะได้พบกันอีกสักครั้งหรือสองครั้ง?"
เธอไม่คิดหรือว่ามิตรภาพของเราไม่ควรขึ้นอยู่กับสถานที่และกาลเวลา
"ลาก่อน ซัลลี เราจะพบกันอีก"
"ซัลลี
ฉันต้องกลับไป" โจนาทานพูดขึ้นในที่สุด "นักเรียนของเธอกำลังทำได้ดี
เขาจะช่วยเธอฝึกนกตัวใหม่ ๆ ได้ต่อไป"
ตัวหัวเน่า
โจนาทานอยู่ต่อไปและช่วยฝึกนกใหม่
ๆ ที่เข้ามา พวกนั้นทั้งหมดฉลาดและรวดเร็วในบทเรียนอย่างยิ่ง
แต่ความรู้สึกเก่าก็กลับมาอีก
โจนาทานช่วยไม่ได้ที่จะคิดว่าอาจจะมีนางนวลสักตัวหรือสองตัวบนพื้นโลกที่สามารถเรียนรู้ได้
โจนาทานคงจะได้เรียนรู้มากมายแล้วในบัดนี้
ถ้าหากเจียงได้ไปหามันวันที่มันถูกขับเป็น
"ฉันไม่แคร์ว่าพวกนั้นจะพูดว่าอะไร"
มันคิดอย่างหนักหน่วงและสายตามันก็พร่าเมื่อบินออกไปสู่หน้าผาโพ้น "การบินมีอะไร ๆ
มากมายกว่าเพียงการกระพือปีก จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง!
ย...ย...ยุงก็ทำอย่างนั้นได้ ฉันเพียงแต่บินหมุนสว่านเล่นรอบ ๆ
นางนวลผู้ใหญ่นิดเดียว เพื่อความสนุกเท่านั้น
ฉันก็กลายเป็นตัวหัวเน่า พวกนั้นตาบอดกระมัง
พวกนั้นมองไม่เห็นหรือ
นางนวลเฟลตเชอร์ ลินด์ ยังเป็นหนุ่มน้อย
แต่มันก็คิดว่าไม่มีนกตัวใด ๆ
เคยถูกปฏิบัติต่อต้านอย่างรุนแรงโดยฝูงนกหรืออย่างไร้ความยุติธรรมเท่ามัน
และดังนั้น
โจนาทานก็วาดมโนภาพนางนวลกลุ่มใหญ่บนชายหาดของอีกกาลเวลาหนึ่ง และมันรู้ได้โดยง่ายดังที่ฝึกฝนไว้ว่าตัวมันนั้นไม่ใช่กระดูกและขน
แต่เป็นความนึกคิดอันสมบูรณ์ด้วยอิสรภาพและการบิน ไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด
"ฉันไม่แคร์ว่าพวกนั้นจะคิดอย่างไร
ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่าการบินเป็นอย่างไร !
ฉันจะเป็นตัวนอกกฎนอกเกณฑ์จริง ๆ ถ้าเขาต้องการแบบนั้น
และฉันจะทำให้เขาเสียใจนักเชียว..."
ซัลลิแวนถอนหายใจแต่มิได้โต้แย้ง
"ฉันคิดว่าคงจะคิดถึงเธอโจนาทาน" มันพูดแค่นั้น
ตอนที่
5
ทำไมพวกนั้นไม่ยอมคิดถึงความรุ่งโรจน์ที่จะมีมาเมื่อเราเรียนรู้การบินอย่างจริงจัง
? "
"ซัลลี
น่าอาย!" โจนาทานพูดขึ้นอย่างตำหนิ "แล้วก็อย่าเหลวไหล!
เรากำลังฝึกทำอะไรอยู่ทุกวัน ๆ ?
ซัลลิแวนมองดูพื้นทราย
"ลาก่อน จอนเพื่อนฉัน"




และ
สักวันหนึ่งพวกนั้นจะรู้
และสักวันหนึ่งพวกนั้นจะเห็นสิ่งที่เธอเห็น อภัยให้เขา
และจงช่วยให้เขาเข้าใจ"
นางนวลที่ขาวสดใสที่สุดในโลกกำลังบินอยู่ห่างจากปลายปีกขวาของเฟลตเชอร์เพียงหนึ่งนิ้ว
ร่อนเรียงมาโดยปราศจากความพยายามใด ๆ ไม่ขยับขนแม้แต่สักเส้นเดียว
และก็บินเกือบเท่าความเร็วสูงสุดของเฟลตเชอร์
การขับไสเธออย่างนั้น
นางนวลอื่น ๆ ได้ทำร้ายตัวเขาเอง
เสียงหนึ่งดังเข้ามาในหัวของเฟลตเชอร์
ลินด์ แม้ว่าเสียงนั้นจะอ่อนโยน
แต่ก็ทำให้มันตกใจมากจนชะงักและสะดุดอยู่กลางอากาศ
"อย่ารุนแรงกับพวกเขานัก
นางนวลเฟลตเชอร์
"ใช่"
มันตอบอย่างอ่อนโยน
เสียงนั้นดังเข้ามาอีกในความคิดของเฟลตเชอร์
ทุ้มและนุ่มนวลและถามขึ้น "เฟลตเชอร์ ลินด์ เธออยากบินไหม"
"เกิดอะไรขึ้น
ฉันบ้าไปหรือ ฉันตายไปแล้วหรือ อะไรนี่"
"เอาล่ะ
เฟลต" เจ้าสัตว์สุกใสพูดกับมัน น้ำเสียงกรุณายิ่งนัก
"เรามาเริ่มต้นการบินระดับตรง..."
ไม่ว่านางนวลเฟลตเชอร์จะทะนงหรือปวดร้าวสักเท่าใด
มันก็ไม่มีความโป้ปดมดเท็จต่อหน้านกที่ชำนิชำนาญวิเศษนั้น
"เฟลตเชอร์
ลินด์ เธออยากบินมากจนกระทั่งเธอจะอภัยให้ฝูงนก
เรียนรู้ และกลับไปหาพวกเขาสักวันหนึ่ง และช่วยให้เขารู้ไหม ?
"
มันเป็นชั่วขณะของความปั่นป่วนต่อเจ้านกหนุ่ม
"ใช่
ฉันอยากบิน!"
"โจนาทาน
เธอกำลังมาเสียเวลากับฉัน ฉันโง่เกินไป! ฉันเซ่อเกินไป!
ฉันพยายามแล้วพยายามเล่า แต่ฉันคงจะทำไม่สำเร็จ!"
การบินชะงักของเฟลตเชอร์ตอนจะสุดยอดนี้ทำให้มันโมโหโกรธาอย่างล้นเหลือที่ล้มเหลว
มันถลาไปข้างหลังหกคะเมนคว่ำรุนแรงและหมุนตัวกลับติ้ว
แล้วมันก็ตั้งหลักได้ในที่สุด
สั่นสะท้านอยู่ใต้ระดับหนึ่งร้อยฟุตจากครูผู้สอนของมัน
"...แปด...เก้า...สิบ...เห็นไหม-โจนาทาน-ฉันกำลังบินสุดยอดความเร็วอากาศ...สิบเอ็ด...ฉันอยากหยุด-แน่
ๆ - ดี ๆ อย่างเธอ
สิบสอง...แต่-บ้าจัง-ฉัน-ทำ-ไม่ได้...สิบสามหลักสุดท้าย...ไม่...สิบสี่...โอ๊ย!"
แล้วนาทีนั้นรูปร่างราง
ๆ สีเทาหม่นก็พุ่งดิ่งโครมครามเข้ามา
พุ่งผ่านครูผู้สอนด้วยความเร็วหนึ่งร้อยห้าสิบไมล์ต่อชั่วโมง
มันดึงตัวอย่างทันควันเพื่อลองอีกครั้งด้วยการบินกลิ้งอย่างช้าเป็นแนวตั้งนับสิบรอบ
ส่งเสียงรับออกดังก้อง
โจนาทานบินเป็นวงช้า
ๆ เหนือหน้าผาโพ้น แล้วก็เฝ้าดู เจ้านางนวลหนุ่มกร้าวเฟลตเชอร์เป็นนักเรียนบินที่เกือบเป็นเลิศ
มันแข็งแรง เบา และเร็วในอากาศ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น
มันมีพลังคุกรุ่นที่จะเรียนรู้การบิน

โจนาทานมักจะพูดเช่นนั้นตอนเย็น
ๆ บนชายหาด
"พวกเราแต่ละตัวโดยที่จริงเป็นความนึกคิดของนางนวลที่ยิ่งใหญ่
เป็นความนึกคิดอิสระเสรีที่ไม่มีขอบเขตจำกัด"
กระนั้นก็ตาม
เป็นการง่ายสำหรับพวกนี้ที่จะฝึกบินชั้นสูงได้ดีกว่าที่เข้าใจเหตุผลที่มีอยู่เบื้องหลังการบินนั้น
เมื่อสิ้นสามเดือนโจนาทานมีนักเรียนอีกหกตัว
ทั้งหมดเป็นพวกหัวเน่า แต่ก็กระหายที่จะเรียนรู้ความคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ
เกี่ยวกับการบิน เพื่อการรื่นเริงแห่งการบิน
เธอต้องนุ่มนวล!
แข็งแกร่งแต่นุ่มนวล จำได้ไหม"
นางนวลโจนาทานมองลงไปที่มันแล้วก็พยักหน้า
"เธอคงทำไม่สำเร็จแน่ ๆ ถ้าเธอยังคงดึงตัวแข็งอย่างนั้น เฟลตเชอร์
เธอเสียไปตั้งสี่สิบไมล์ต่อชั่วโมงตอนออกบิน!
"
และการฝึกบินเป็นขั้นที่จะไปสู่การแสดงออกถึงธรรมชาติอันแท้จริงของเรา
อะไรก็ตามที่จะมาจำกัดเรา เราต้องปัดออกไปเสีย และการฝึกความเร็วสูง
ความเร็วต่ำ การบินกายกรรมในอากาศก็เพื่อเหตุผลที่ว่า..."
"ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากความคิดของเธอเอง
มันเป็นรูปร่างที่เธอมองเห็น เมื่อเธอตัดโซ่ตรวนออกจากความคิดได้
เธอก็ตัดโซ่ตรวนนั้นออกจากร่างกายได้ด้วย..."
โจนาทานมักจะพูดขึ้นบางขณะ
"ร่ายกายของเธอทั้งหมด
จากปลายปีกหนึ่งไปสุดอีกปีกหนึ่ง"
...และนักเรียนของโจนาทานก็หลับผล็อยเหน็ดเหนื่อยจากการบินทั้งวัน
พวกนักเรียนชอบการฝึกเพราะมันเร็วและน่าตื่นเต้น
การฝึกตอบสนองการกระหายที่จะเรียนรู้ซึ่งเพิ่มมากขึ้น ๆ ทุก ๆ บทเรียน
"เอาละ
เราไม่จำเป็นจะต้องเชื่อกฎถ้าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝูงนกใช่ไหม"
เฟลตเชอร์พูดขึ้นอย่างมีสติ "นอกนั้น ถ้าเกิดต่อสู้กันขึ้น
เราก็จะมีผู้ไปช่วยกันที่โน่นมากกว่าที่นี่"
บรรดานักเรียนของโจนาทานงุนงงและปวดร้าวอยู่ขณะหนึ่งเพราะมีกฎของฝูงว่า
ตัวหัวเน่าจะกลับไปอีกไม่ได้
และกฎนี้ก็ไม่เคยถูกทำลายแม้แต่ครั้งเดียวในเวลาตั้งหมื่นปี
กฎบอกว่าให้อยู่ โจนาทานบอกว่าให้ไป
และตอนนี้โจนาทานก็บินข้ามผืนน้ำไปได้หนึ่งไมล์แล้ว
ถ้าพวกมันรีรอต่อไปอีกโจนาทานก็คงไปถึงฝูงนกที่ไม่เป็นมิตรด้วยตัวคนเดียว
"เรามีอิสระที่จะไปที่ไหนที่เราต้องการได้
และก็เป็นอย่างที่เราเป็นอยู่อย่างนี้" โจนาทานตอบ
มันบินขึ้นจาก
พื้นทรายขึ้นไปทางตะวันออกตรงไปยังถิ่นฐานของฝูงนางนวล
"เรายังไม่พร้อม!"
นางนวลเฮนรี แคลวินพูดขึ้น "เราไม่ได้รับการต้อนรับ!
เราเป็นพวกหัวเน่า
เราจะบังคับตัวเองให้ไปที่ที่เราไม่ได้รับการต้อนรับไม่ได้
ใช่ไหม"
แต่ไม่ว่าโจนาทานจะพูดว่าอย่างไร
มันก็ฟังคล้าย ๆ นิยายสนุก ๆ เท่านั้น
พวกนักเรียนต้องการที่จะนอนมากกว่า


อีกหนึ่งเดือนต่อมาโจนาทานพูดว่า
ถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปหาฝูงนางนวล
และพวกมันทั้งหมดก็บินออกจากทิศตะวันตกในเช้าวันนั้น
บินเป็นรูปข้าวหลามตัดซ้อนกันทั้งแปดตัว
ปลายปีกเกือบจะจรดกัน
พวกมันบินข้ามมายังสภาชายหาดของฝูงด้วยความเร็วหนึ่งร้อยสามสิบห้าไมล์ต่อชั่วโมง
โจนาทานนำหมู่ เฟลตเชอร์บินอย่างนุ่มนวลอยู่ทางปีกขวา เฮนรี
แคลวินมาทางซ้ายอย่างกล้าหาญแล้วทั้งฝูงก็ร่อนอย่างช้า ๆ ไปทางเบื้องขวา
ทีละตัว...ได้ระดับ...หมุนกลับ...เป็นระดับ
สายลมกระพืออยู่เหนือพวกมัน
ฝูงนางนวลจะทำอะไรกับกลุ่มของโจนาทาน......................โปรดติดตามตอนต่อไป
เสียงกรี๊ดกร๊าดเจี๊ยวจ๊าวอันเป็นชีวิตประจำวันของฝูงนกถูกตัดขาดราวกับว่ากลุ่มของโจนาทานเป็นเสมือนเงายักษ์
และแล้วดวงตาทั้งแปดพันดวงของบรรดานางนวลก็จ้องแป๋วโดยไม่กระพริบ
เจ้านกทั้งแปดโผบินขึ้นตั้งตรงทีละตัว
บินโค้งกลมลงมายืนตรงแน่วอยู่บนพื้นทราย
และเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำแต่ละวัน
นางนวลโจนาทานเริ่มต้นการวิพากษ์เกี่ยวกับการบิน