"เจียง โลกนี้ไม่ใช่สวรรค์เลย ใช่ไหม?"
และก็
นางนวลเฒ่ามองโจนาทานอย่างเมตตา "ว่าไงลูก"  แทนที่จะอ่อนเรี่ยวแรงโดยอายุขัย  นางนวลผู้ใหญ่   กลับมีพลัง มันสามารถบินได้เหนือนางนวลใด ๆ ในฝูง และก็ได้เรียนรู้ความชำนิชำนาญที่นางนวลอื่น ๆ เพิ่งจะเริ่มรู้ทีละเล็กละน้อย
"เจียง..." โจนาทานกล่าวขึ้น ประหม่าเล็กน้อย
เย็นวันหนึ่ง บรรดานางนวลที่ไม่ได้บินกลางคืนยืนรวมกันอยู่บนหาดทราย   และต่างก็คิด โจนาทานรวบรวมความกล้าทั้งหมดไว้เดินเข้าไปหา นางนวลผู้ใหญ่ ตัวที่พูดกันว่าจะไปพ้นโลกนี้ในไม่ช้า
ตอนที่ 4
สวรรค์ไม่ใช่สถานที่
"ไม่มี โจนาทาน ไม่มีสวรรค์ดอก
"เออ อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่นี้? เรากำลังจะไปไหนกัน ไม่มีที่ที่เป็นสวรรค์หรอกหรือ?"
 มันพูดขึ้น
 "เธอกำลังเรียนรู้อีกแล้วนางนวลโจนาทาน"
นางนวลผู้ใหญ่ ยิ้มภายใต้แสงจันทร์
ไม่ใช่กาลเวลา  สวรรค์คือความเป็นเลิศ
"
"เธอจะเริ่มสัมผัสสวรรค์ โจนาทาน เมื่อถึงเวลาที่เธอสัมผัสความเร็วเลิศนั้น และนั่นไม่ใช่การบินด้วยความเร็วหนึ่งพันไมล์ต่อชั่วโมง หรือหนึ่งล้านไมล์ หรือบินด้วยความเร็วของแสง เพราะว่าไม่ว่าจำนวนใดก็เป็นขอบเขตจำกัด และความเป็นเลิศไม่มีขอบเขต   ความเร็วเลิศ…..คือการไปถึงที่นั่น"
"ฉัน...ฉันชอบความเร็ว" โจนาทานเอ่ยขึ้นตะกุกตะกัก แต่ก็ภูมิใจที่นางนวลผู้ใหญ่สังเกตเห็น
เจียงเงียบ      ไปชั่วขณะ "เธอเป็นผู้บินเร็วมาก ใช่ไหม?"
โดยปราศจากสัญญาณใด ๆ เจียงหายวับไปและปรากฏตัวใหม่อยู่ที่ขอบน้ำห้าสิบฟุตไกลออกไป ทั้งหมดนี้ทำเพียงแค่แวบเดียวของชั่วขณะหนึ่ง เจียงหายวับอีกครั้งและกลับมาเคียงข้างไหล่ของโจนาทานในเวลาเพียงมิลลิวินาทีเช่นกัน "สนุกดี" เจียงว่า
สวรรค์ไม่ใช่สถานที่หรือกาลเวลา เพราะสถานที่และกาลเวลาไร้ความหมายยิ่งนัก
"มันประหลาด    นางนวลที่เยาะเย้ยความเป็นเลิศเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวกลับไม่ได้ไปไหน    แล้วก็เชื่องช้า   แต่…ผู้ที่พักการเที่ยวเพื่อแสวงหาความเป็นเลิศ   ไปไหนก็ได้   และก็รวดเร็ว    ฉับพลัน  จำไว้ โจนาทาน
นางนวลผู้ใหญ่กล่าวตอบ "ฉันได้ไปมาแล้วทุกหนทุกแห่ง และทุกกาลเวลาที่ฉันพอจะคิดได้" เจียงมองข้ามท้องทะเลออกไป
"เธอไปที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ตามที่เธอปรารถนาจะไป"
โจนาทานงงไปหมด มันลืมที่จะถามเรื่องสวรรค์ "เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร แล้วรู้สึกอย่างไร เธอไปได้ไกลแค่ไหน"
เจียงพูดขึ้นอย่างช้า ๆ และเฝ้าดูเจ้านางนวลหนุ่มอย่างใกล้ชิดยิ่ง "การที่จะบินให้เร็วเท่าความนึกคิด ไปไหนก็ได้คือ" เจียงกล่าว
"ฉันอยากเรียนที่จะบินแบบนั้น" โจนาทานพูด และแสงประหลาดวูบวาบขึ้นในดวงตาของมัน "บอกฉันซิว่าจะทำอย่างไร"
"เราเริ่มเดี๋ยวนี้ก็ได้ ถ้าเธอต้องการ"
"ฉันอยาก เราจะเริ่มกันได้เมื่อไร"
"เธอสอนฉันให้บินอย่างนั้นได้ไหม" นางนวลโจนาทานสั่นสะท้านที่จะพิชิตความไม่รู้อีกอันหนึ่ง
"แน่นอน ถ้าเธออยากจะเรียน"
สวรรค์คือ..."
โจนาทานส่งเสียงด้วยความดีใจ เป็นครั้งแรกที่มันส่งเสียงร้องนับแต่จากโลกมา "ได้ผล"
โจนาทานลืมตาขึ้น   มันมายืนโดดเดี่ยวอยู่กับนางนวลผู้ใหญ่บนชายฝั่งประหลาดอีกแห่ง ต้นไม้ระลงไปที่ริมขอบน้ำ ดวงตะวันสีเหลืองสองดวงหมุนเวียนอยู่เหนือหัว
นางนวลผู้ใหญ่ ปัดคำถามนั้นไป โดยที่ไม่ตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมที่ประหลาดนั้น "ก็เห็นได้ชัดนี่ เราอยู่บนดวงพระเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีท้องฟ้าสีเขียว และมีดาวสองดวงแทนดวงตะวัน"
วันแล้ววันเล่า โจนาทานเฝ้าฝึกฝนอย่างทรหดตั้งแต่ก่อนตะวันขึ้นจนเลยเที่ยงคืน และด้วยความมานะทั้งหมดโจนาทานมิได้ขยับเขยื้อนจากตำแหน่งที่ของมันแม้แต่ช่วงขนเดียว
"ลืมความศรัทธาซะ!" เจียงพูดแล้วพูดอีก "เธอไม่ต้องการศรัทธาเพื่อจะบิน เธอต้องการความเข้าใจในการบิน นี่ก็เหมือนเดิมอีก ลองใหม่อีกทีซิ..."
 และเป็นเลิศเสมือนเลขที่ไม่มีตัวเขียน
จะต้องรู้ถึงธรรมชาติที่แท้จริงของตนเอง อยู่ได้ทุก ๆ แห่งในฉับพลัน ข้ามพ้นสถานที่และกาลเวลา
 "เธอจะต้องเริ่มด้วยความคิดที่ว่าเธอได้ไปถึงแล้ว..."
เคล็ดลับก็คือโจนาทานต้องเลิกมองตนเองว่าถูกกักอยู่ในร่างกายที่จำกัดเพียงสี่สิบสองนิ้วฟุตของความยาวของปีกหรือข้อจำกัดของการบินที่ตราไว้บนตาราง   เคล็ดลับก็คือ
ตามที่เจียงว่า
"ดีแล้ว!" เจียงดูมีชัยชนะในน้ำเสียงของมัน
โจนาทานงุนงง "เราอยู่ที่ไหนนี่"
"ในที่สุดเธอก็ได้ความคิด" เจียงว่า "แต่การบังคับของเธอต้องฝึกฝนหน่อย..."
ต่อมาวันหนึ่ง โจนาทานยืนอยู่ที่ชายฝั่ง หลับตา สำรวมทันใดนั้นมันก็รู้สึกถึงสิ่งที่เจียงบอกมันไว้ "ทำไม ใช่แล้ว ฉันเป็นเลิศ เป็นนางนวลที่ไม่มีขอบเขตจำกัด!" มันรู้สึกตระหนกด้วยความยินดียิ่งนัก
"ใช่ แน่นอนมันได้ผล จอน"
"ฉันไม่แน่ใจเรื่องนั้น จอน" ซัลลิแวนยืนอยู่ใกล้ ๆ พูดขึ้น
ทีนี้เรื่องการบังคับของเธอ..."
โจนาทานยืนรับการอวยพรนั้นเพียงไม่ถึงนาที  "ฉันเป็นผู้มาใหม่ที่นี่   ฉันเพิ่งเริ่มต้น! ฉันเป็นผู้ที่ต้องเรียนรู้จากเธอ ๆ !"
"มันได้ผลเสมอเมื่อเธอรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
 เจียงพูด
เมื่อถึงตอนที่นางนวลทั้งสองกลับก็มืดแล้ว นางนวลอื่น ๆ มองโจนาทานด้วยดวงตาสีทองอย่างประหลาดใจ เพราะพวกนี้ได้เห็นโจนาทานหายไปจากที่มันได้มาอยู่เป็นเวลานาน
แต่แล้ววันที่เจียงจะหายวับไปก็มาถึง   เจียงกำลังคุยอย่างเงียบ ๆ อยู่กับบรรดานางนวลทั้งหมด   กระตุ้นให้พวกนั้นไม่หยุดยั้งการเรียนรู้ ฝึกฝน  พิชิต  เพื่อที่จะได้เข้าใจหลักการแห่งชีวิตทั้งมวลที่เป็นเลิศที่มองไม่เห็นด้วยตา     และแล้วขณะที่มันพูดอยู่
 ขนของเจียงก็สดใสขึ้น ๆ จนในที่สุดบรรเจิดจ้ากระทั่งไม่มีนางนวลใดมองตัวเจียงได้
หนึ่งเดือน    หรือไม่ก็สิ่งที่รู้สึกคล้าย ๆ กับเวลาหนึ่งเดือนผ่านไป    โจนาทานเรียนรู้เร็วจากประสบการณ์         ธรรมดา ๆ และถึงตอนนี้ นักเรียนพิเศษของนางนวลผู้ใหญ่เอง ก็ได้ความคิดใหม่มาราวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนเพรียวลม
 ฝูงนางนวลนิ่งเงียบ  และโจนาทานก็อายอึกอักอยู่
 "เธอมีความหวาดกลัวที่จะเรียนน้อยกว่านางนวลใด ๆ ที่ฉันเคยเห็นมาในเวลาหมื่นปี"
"เราเริ่มฝึกเกี่ยวกับเวลาได้แล้ว  ถ้าเธอต้องการ" เจียงกล่าวขึ้น "จนกระทั่งเธอสามารถบินอดีตอนาคตได้  และเมื่อนั้นเธอจะได้พร้อมที่จะเริ่มสิ่งที่ยากที่สุด   มีพลังที่สุด  และสนุกที่สุด  เธอจะเริ่มพร้อมที่จะบินขึ้น และรู้ถึงความหมายของความเมตตาและความรัก"
ในขณะที่วันคืนผ่านไป โจนาทานรู้สึกว่าตนกำลังคิดถึงโลกที่มันจากมาครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าหากว่ามันรู้เมื่ออยู่ที่โน่นเพียงหนึ่งในสิบ  หนึ่งในร้อยของที่นี่  ชีวิตคงจะมีความหมายมากมายเหลือเกิน! โจนาทานยืนอยู่บนหาดทราย และสงสัยว่าจะมีนางนวลสักตัวที่โน่นไหมที่กำลังต่อสู้เพื่อฟันฝ่าเขตดวงจำกัดออกมา   เพื่อที่จะพบความหมายของการบินนอกเหนือไปจากบินไปเอาเศษขนมปังจากเรือหาปลา   บางทีอาจจะมีนกสักตัวที่ถูกขับเป็นตัวหัวเน่าไปแล้วก็ได้     ในฐานะที่พูดความจริงต่อหน้าฝูงนางนวล   และยิ่งโจนาทานฝึกบทความเมตตามากขึ้นเท่าใด   ฝึกเรียนรู้ธรรมชาติขอความรักขึ้นเท่าใด   มันก็อยากกลับไปยังโลกมากขึ้นเท่านั้น   แม้ว่ามันจะมีอดีตที่เปล่าเปลี่ยว
"จงฝึกความรักเอาไว้"
 เธอรู้สุภาษิตที่เป็นจริงว่า : นางนวลที่บินสูงที่สุด ย่อมมองเห็นไกลที่สุด นางนวลที่เธอจากมาเหล่านั้นได้แต่ยืนบนพื้นทราย ร้องเอะอะแย่งชิงในหมู่กันเอง พวกนั้นอยู่ห่างไกลสวรรค์ตั้งพันไมล์ แล้วเธอว่าเธออยากจะแสดงให้เขาเห็นถึงสวรรค์จากที่เขา          ยืนอยู่  ? จอน พวกนั้นมองแม้แต่ปลายปีกของตนก็ไม่เห็น  อยู่ที่นี่เถิด   ช่วยนางนวลใหม่ ๆ ที่นี่ นางนวลที่สูงส่งพอที่จะเห็นสิ่งที่เธอบอกให้เขาฟัง"
โจนาทานก็เกิดมาเพื่อเป็นครูผู้สอน และหนทางที่มันจะเสนอความรักได้ก็คือให้ความจริงบางประการที่มันได้พบเห็น ให้ต่อนางนวลสักตัวที่ร้องขอแต่เพียงโอกาสที่   จะค้นหาความจริงให้ตนเอง
ซัลลิแวนซึ่งบัดนี้ช่ำชองในการบินความเร็วความคิด และกำลังช่วยนกอื่น ๆ ให้เรียนรู้อยู่   ยังสงสัยนัก
 "จอน ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นตัวหัวเน่า   ทำไมเธอถึงคิดว่า  นางนวลฝูงเก่าของเธอจะรับฟังเธอในตอนนี
เจียงพูด และก็เป็นคำสุดท้ายที่มันพูด
"โจนาทาน"
เมื่อนางนวลทั้งหลายมองอีกครั้งหนึ่ง เจียงก็หายไปเสียแล้ว
นางนวลที่บินสูงที่สุด ย่อมมองเห็นไกลที่สุด !!
จุดสุดท้ายนั้นแจ่มแจ้งนัก และซัลลิแวนพูดถูก
ซัลลิแวนเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดขึ้นอีกว่า "ถ้าหากว่าเจียงกลับไปโลกของเขาเสียก่อน? เธอจะเป็นอย่างไรในวันนี้?"

 โจนาทานจะตัดสินใจอย่างไร....................................โปรดติดตามตอนต่อไป