ท่านยังเป็นอริยบุคคลของโลกด้วยการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่ต้องการสันติภาพในโลกด้วยการไม่แบ่งแยกมนุษย์ทั่วโลกออกจากกันด้วยเพียงศาสนาที่เขานับถือดังปรากฏในปณิธาน
3 ข้อ ที่ท่านประกาศไว้ดังนี้ :
3.
เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดของท่านพุทธทาสซึ่งตรงกับวันที่
27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ผมได้อ่านประวัติและคำสอนของศาสนาพุทธที่ท่านพุทธทาสได้ถ่ายทอดแก่ชาวโลกที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับได้นำเสนออย่างต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน
ผมรู้สึกชื่นชมความตั้งใจที่แรงกล้าของท่านพุทธทาสในการสอนให้มนุษย์เข้าใจถึง
"แก่นแท้" ของธรรมที่พระพุทธเจ้าค้นพบ
ท่านทำทุกวิถีทางในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เพื่อให้มนุษย์พ้นทุกข์
ท่านเป็นผู้ที่ถ่อมตนถึงขนาดตั้งชื่อของท่านเองว่าเป็น "ทาสของศาสนาพุทธ"
พุทธทาสภิกขุ
"
การทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม
การปฏิบัติธรรมคือการปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
ธรรมกับหน้าที่คือสิ่งเดียวกัน การทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม"
อริยวาทะ
ธรรมกับการทำงานผ่านท่านพุทธทาส

"ถาวร เป็นจริง
และช่วยให้มนุษย์พ้นทุกข์ได้ในทุกกาลเวลา !"
2.
ปณิธานของท่านและความพยายามในการเผยแผ่ศาสนาอย่างจริงจังของท่าน
ทำให้ท่านได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO
ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกแม้ว่าในช่วงหนึ่งของชีวิตของท่านนั้นเคยถูกกล่าวหาว่าเป็น
"พระคอมมิวนิสต์" เพียงเพราะว่าท่านเคยปฏิเสธคำขอของ CIA ที่ขอให้ท่านต่อต้าน
"คอมมิวนิสต์" เพราะคำตอบของท่านคือ "กลัวกิเลสมากกว่าคอมมิวนิสต์"
ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดของท่านว่า "ลึกซึ้ง" และ "ถึงแก่น"
เกินยุคสมัยในยุคของท่านมากนัก !
-ให้เกิดความเข้าใจกันระหว่างศาสนา
ความเข้าใจถึง
"ธรรมในศาสนาพุทธ" ของท่านนั้นลึกซึ้งถึงขนาดข้ามพ้นลัทธิเศรษฐศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น
"เสรีนิยม" หรือ "คอมมิวนิสต์"
ซึ่งเป็นลัทธิที่ชนแต่ละประเทศมีสิทธิเลือกในระบบที่เหมาะสมกับสถานะการณ์ของตนในขณะนั้นๆ
แต่ไม่ว่าลัทธิใดก็ยังคงมี "กิเลส" แฝงรองรับอยู่ทั้งสิ้น
ท่านจึงไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือแก่ลัทธิใดๆ และในความเป็นจริงแล้ว
"ลัทธ"นั้นเป็นสิ่งผิวเผิน และ "เปลี่ยนแปลง"ได้
แต่ธรรมของพระพุทธเจ้าต่างหากที่
-ให้มนุษย์ก้าวพ้นจากอำนาจของวัตถุนิยม
-ให้ทุกคนเข้าใจแก่นแท้แห่งศาสนาของตน

สังคมจะอยู่อย่างมั่นคงในระยะยาวไม่ได้หาก
มนุษย์ละทิ้งศีลธรรม
ต่อให้มีความรู้สูงแค่ไหน
หากขาดซึ่งศีลธรรมแล้ว ในที่สุด
ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกันจะนำความเสื่อมมาให้ในที่สุด !
สถานะการณ์ความวุ่นวายที่เราเห็นมาหลายเหตุการณ์คงเป็นบทพิสูจน์อย่างดีว่าท่านพุทธทาสคิดถูกและแม่นยำเพียงใด
!
"ทำถูกต้องทุกขั้นตอน
ทุกวินาที ทุกขณะ"
ท่านพุทธทาสเป็นผู้หนึ่งที่เรียกร้องให้รัฐบาลในอดีตตั้ง
"กระทรวงศีลธรรม" เพราะท่านเชื่อว่า
ท่านพุทธทาสย้ำอยู่เสมอให้เรา
หรือคำพูดที่อาจจะดูแรงแต่ทว่ากระแทกให้เรา
"ตื่น" อย่างได้ผลที่ว่า
พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย
แม้ร่างกายจะดับไปไม่ฟังเสียง
ร่างกายเป็นร่างกายไปไม่ลำเอียง
นั่นเป็นเพียงสิ่งเปลี่ยนไปในเวลา
พุทธทาสคงอยู่ไปไม่มีตาย
ถึงดีร้ายก็จะอยู่คู่ศาสนา
สมกับมอบกายใจรับใช้มา ตามบัญชาองค์พระพุทธไม่หยุดเลย
พุทธทาสยังอยู่ไปไม่มีตาย
อยู่รับใช้เพื่อนมนุษย์ไม่หยุดเฉย
ด้วยธรรมโฆษณ์ตามที่วางไว้อย่างเคย
โอ้เพื่อนเอ๋ยมองเห็นไหมอะไรตาย
แม้ฉันตายกายลับไปหมดแล้ว
แต่เสียงสั่งยังแจ้วแว่วหูสหาย
ว่าเคยพลอดกันอย่างไรไม่เสื่อมคลาย
ก็เหมือนฉันยังไม่ตายกายธรรมยัง
ทำกับฉันอย่างกะฉันนั้นไม่ตาย
ยังอยู่กับท่านทั้งหลายอย่างหนหลัง
มีอะไรมาเขี่ยไค้ให้กันฟัง
เหมือนฉันนั่งร่วมด้วยช่วยชี้แจง
ทำกับฉันอย่างกะฉันไม่ตายเถิด
ย่อมจะเกิดผลสนองหลายแขนง
ทุกวันนัดสนทนาอย่าเลิกแล้ง
ทำให้แจ้งที่สุดได้เลิกตายกัน
คำพูดของท่านน่าจะมีส่วนกระตุ้นเตือนให้เรา
"มีสติ ในการใช้ชีวิตให้เกิดคุณภาพแก่ตนเองและสังคม" และ
"มีสติในการทำงานให้มีคุณภาพเพื่อประโยชน์แก่ตนเองและสังคม"
1
2
"อย่าทำชุ่ย
ถ้าเราทำอย่างไร เราก็ได้อย่างนั้น"
-----------------------------------------------------------------------------
มติชนวันอาทิตย์ที่
4 มิย. 49 คอลัมน์ "ศาสนา-จิตใจ"
2:
1:
มติชนวันอาทิตย์ที่
4 มิย. 49 คอลัมน์ "ศาสนา-จิตใจ"